Tesla (เทสล่า) นอกจากจะเป็นค่ายรถที่ได้รับความภักดีต่อแบรนด์สูงสุดในสหรัฐฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ S&P Global Mobility รายงานว่า ขณะที่เทสล่ายังมีอัตราความภักดีที่สูงอยู่ ก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่หายไปเช่นกัน ทั้งเปลี่ยนไปใช้รถอีวีแบรนด์อื่น หรือการกลับไปใช้รถน้ำมันแบบเดิม

สำหรับ Tesla Model Y นั้นมีอัตราความภักดีอยู่ที่ 37.3% ครองอันดับที่ 1 ขณะที่ Ford Mustang Mach-E นั้นได้ 18.5% ครองอันดับ 2 

อัพไป Model X หรือ Model S ไม่ไหว

รายงานจาก S&P ระบุว่า สำหรับเรื่องการซื้อแบรนด์เดิมซ้ำนั้น เจ้าของ Tesla Model Y กว่า 70.5% ต้องการซื้อรถอีวีคันที่สองเป็นแบรนด์อื่น ส่วนที่เหลือต้องการรถอีกคันที่เป็นเอสยูวีหรือกระบะเครื่องสันดาปแทน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาของ Model Y และรถรุ่นเรือธงอย่าง Model X และ Model S มีช่องว่างที่ห่างกันเกินไป

ในสหรัฐฯ Tesla Model Y Long Range มีราคาเริ่มต้นที่ 50,490 ดอลล่าร์แบบไม่รวมภาษีและการช่วยเหลือใด ๆ จากรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้เทสล่าเพิ่งได้ถอดรุ่นที่มีราคาต่ำกว่านี้ออกไป ส่วน Model S มีราคาเริ่มที่ 74,990 ดอลล่าร์ และ Model X มีราคาเริ่มต้นที่ 80,000 ดอลล่าร์ ซึ่งไม่รวมภาษีและการช่วยเหลือจากรัฐด้วยเช่นกัน

Cybertruck อาจจะมาอุดช่องว่างนี้

มีการคาดการณ์ว่า Tesla Cybertruck จะมาอุดช่องว่างนี้ เนื่องจากราคากระบะไฟฟ้าคู่แข่งอย่าง Ford F-150 Lightning ได้ประกาศราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 50,000 ดอลล่าร์แบบรวมทุกอย่างแล้วเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา 

หลังจากนั้น Elon Musk ก็ได้ทวิตถึงราคา F-150 Lightning ว่า “ค่อนข้างแพง” ซึ่งอาจเป็นการบอกใบ้ได้ว่า Cybertruck อาจมีราคาที่ถูกกว่านี้

เจ้าของ Tesla Model S หลายคนก็มีความต้องการเปลี่ยนไปใช้รถแบรนด์อื่นเช่นกัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ Model S นั้นมีอายุเกือบ 10 ปีแล้ว อัตราความภักดีก็อาจจะหายไปตามกาลเวลา จึงพบว่า ผู้ซื้อ Model S จะเปลี่ยนรถเป็น Lucid Air กว่า 3.4% เปลี่ยนเป็น Mercedes-Benz EQS 1.6% และเปลี่ยนเป็น Rivian R1S ที่ 1.2%

แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยหากถามว่าเราต้องการที่จะกลับมาซื้อ Tesla อีกครั้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในภาพใหญ่ Tesla ก็ยังครองบัลลังก์อยู่ เพราะเจ้าของ Model S กว่า 60% ยังอยากใช้ Tesla เป็นคันต่อไป ขณะที่เจ้าของ Model 3 กว่า 72.8% ก็ยังอยากใช้รถยี่ห้อเดิมอยู่

การศึกษานี้อาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด

การศึกษาของ S&P ก่อนหน้านี้ระบุว่า ผู้ที่ซื้อรถ Tesla กว่า 28.6% เป็นผู้ที่เคยใช้แบรนด์ดั้งเดิมโดยตรง (เช่น Toyota Honda) อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้เก็บข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือนมาจนถึงเดือน มิ.ย. 2023 เท่านั้น ซึ่งอาจจะยังไม่ครอบคลุมผู้ที่ซื้อรถในช่วงเวลาก่อนหน้านี้

อ่านเพิ่มเติม: ผลสำรวจชี้แบรนด์ Tesla มีความแข็งแกร่งลดลง