ส่งออกรถยนต์ ประเทศจีน car export China

• ไทยนำเข้ารถยนต์พลังงานใหม่อันดับ 3
• จีนส่งออกเพิ่ม 75.7% ในครึ่งปีแรก
• ทุกค่ายต่างเติบโตและหาตลาดใหม่

หลังการสนับสนุนด้านโครงสร้างภาษีและเงินสนับสนุนในรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนต่างก็เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นำทีมมาโดย MG (เอ็มจี) GWM (เกรทวอลล์มอเตอร์) และ BYD (บีวายดี) ที่ต่างก็เร่งนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดกันอย่างคึกคัก

รายงานล่าสุดจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน เปิดเผยให้เห็นถึงการเติบโตที่สำคัญของประเทศไทยในการเป็นตลาดนำเข้ารถยนต์พลังงานใหม่อันดับที่ 3 จากประเทศจีน รองจากเบลเยี่ยมและสหราชอาณาจักร ขณะที่ตลาดส่งออกรถยนต์จากประเทศจีนในภาพรวม มีรัสเซีย เม็กซิโกและเบลเยี่ยมเป็นตลาดหลัก

การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์จากผู้ผลิตสัญชาติจีน ทำให้มีการส่งออกรถยนต์ในครึ่งแรกของปี 2566 จากประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นเป็น 2.14 ล้านคัน หรือเติบโต 75.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรถยนต์นั่งจำนวน 1.78 ล้านคัน เติบโต 88.4% และเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ 5.34 แสนคัน เติบโต 160%

ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่น่าสนใจอย่างมาก…

การไล่ล่าตำแหน่งผู้นำส่งออกยานยนต์โลก

จีนเริ่มปรับตัวเองมาเป็นผู้ส่งออกรถยนต์โลกในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพิ่งทำยอดส่งออกทะลุ 1 ล้านคันต่อปีมา ก่อนที่จะแตะ 2 ล้านคันต่อปีในปี 2564 และในปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกรถยนต์จากประเทศจีนก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคัน ทำให้จีนกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ไปสู่ตลาดโลกอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น และพวกเขาตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกให้ได้มากกว่า 4 ล้านคันในปีนี้ ตามรายงานของเลขาธิการสมาคมฯ ได้ประเมินเอาไว้

อ่านเพิ่มเติม: BOI ยืนยัน Changan-Chery เตรียมลุยรถยนต์ไฟฟ้าในไทยแน่นอนในอีกไม่นาน

ใครเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่จากจีนกันบ้าง

หากดูจากสถิติการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีเพียง 7 รายเท่านั้นที่สามารถทำยอดส่งออกได้เกิน 1 แสนคัน ประกอบไปด้วย SAIC (เอสเอไอซี) Chery (เฌอรี่) Tesla (เทสล่า) Changan (ฉางอัน) GWM (จีดับบลิวเอ็ม) Geely (จีลี่) และ Dongfeng (ดองเฟง) ขณะที่ BYD ที่ส่งออก 8.1 หมื่นคัน มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 1,060% ตามมาด้วยเฌอรี่ที่ส่งออก 3.94 แสนคัน เติบโต 170% และเกรทวอลล์มอเตอร์ที่ส่งออก 1.24 แสนคัน เติบโต 97.3%

อ่านเพิ่มเติม: เปิดอาณาจักร Geely คลื่นจีนลูกที่ 3 รุกเมืองไทย

แต่ละแบรนด์ก็เติบโตด้วยแนวทางที่ต่างกันไป

แม้จะมีแบรนด์ที่หลากหลาย ทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ร่วมทุน แต่ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็หาช่องทางเติบโตของตัวเองได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเทสล่า ที่ส่งออกรถยนต์ไป 1.82 แสนคัน ขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดส่งออกอันดับ 3 พร้อมครองส่วนแบ่งการส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ 1 ใน 3 ของตลาด การเดินหน้าบุกตลาดของ SAIC ที่เติบโตในเม็กซิโก สหราชอาณาจักรและประเทศไทย หรือเฌอรี่ที่ไปเอาดีในตลาดอย่างรัสเซีย หรือกลุ่มอเมริกาใต้ เป็นต้น

ทุกคนทำงานแข็งขันเต็มที่ ผลประโยชน์ที่ได้ประเทศรับไปเต็ม ๆ เลย…