BYD บีวายดี บีวายดี อัตโต้ 3 BYD Atto3
- แบรนด์น้องใหม่สู่การยึดตลาดแดนมังกร
- 1 ทศวรรษก่อนการบุกประเทศไทย
- แผนงานที่เหนือกว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ถ้าเอ่ยถึงชื่อของ BYD (บีวายดี) หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยไม่ถึงขวบปีดี แต่สร้างความฮือฮาด้วยการเบียดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ แม้จะมีการทำตลาด BYD Atto 3 (บีวายดี อัตโต้ 3) เพียงรุ่นเดียว แต่ก็สามารถสร้างยอดจองและการส่งมอบไปมากกว่า 1 หมื่นคันได้ในระยะเวลาไม่นาน
แต่หลาย ๆ คนที่อาจจะทำกันได้ดีกว่านี้ น่าจะพอนึกถึงเจ้ารถแท็กซี่ไฟฟ้าวีไอพี ที่เข้ามาให้บริการลูกค้าจากสนามบิน หรือแม้แต่หน่วยธุรกิจอื่น ๆ ที่เข้ามาปักหลักในประเทศไทยในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง Liu Xueliang ผู้จัดการทั่วไปของบีวายดี ประเทศจีน บอกว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยนั้นมีการวางแผนมานานแล้ว
"ในอดีตเรามีการทำตลาดหลาย ๆ ธุรกิจ ทั้งการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า รถโฟล์กลิฟท์ไฟฟ้า หรือแม้แต่สินค้าในกลุ่มพลังงานต่าง ๆ ซึ่งมีคำถามจากพันธมิตรและลูกค้าหลายครั้งว่า เมื่อไหร่ที่บีวายดีจะหันมาทำตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบบ้าง ซึ่งบริษัทก็เก็บข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาโดยตลอด และเมื่อทุกอย่างพร้อมและลงตัว จึงได้เปิดอัตโต้ 3 ในประเทศไทย"
อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นมาของบีวายดีนั้นเปรียบเสมือนเทพนิยายแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่แบรนด์ที่มีอายุไม่ถึง 3 ทศวรรษ จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่างประเทศจีน พร้อมทั้งพกความสำเร็จเหล่านี้ในการเปิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก รวมถึงการเดินหน้าผลิตรถยนต์ที่ใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าเท่านั้นนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
การขยายตัวอย่างดุดัน ไม่ใช่แค่เฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่บีวายดีตั้งเป้าหมายที่จะใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์โลกและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งหลาย ๆ โครงการนั้นยังเป็นโครงการทดลองในบริษัท และหลายโครงการเป็นเรื่องที่สร้างความสนุกสนานให้กับตลาด ซึ่งแน่นอนว่าเราจะเน้นไปที่โครงการรถยนต์ที่น่าสนใจ ว่าแนวคิดในการพัฒนาของแบรนด์นั้นมีอะไรกันบ้าง
จบตอนนี้ ตอนหน้าจะพาทัวร์โรงงานและศูนย์ทดสอบต่าง ๆ ของบีวายดีอีกทีละกัน...
ขยายไลน์ธุรกิจรับสังคมแห่งไฟฟ้า
แม้เราจะรู้จักกับดีเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของบีวายดีหลากหลายรุ่น แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้มีธุรกิจแค่เพียงรถไฟฟ้าหรือ Blade Battery อันลือชื่อเท่านั้น แต่มีการขยายไลน์ธุรกิจออกไปเป็น 4 กลุ่มหลัก ที่จะช่วยกันผลักดันให้เกิดสังคมแห่งไฟฟ้าขึ้นได้อย่างแท้จริง ซึ่งขาที่ 1 คืออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นหลักในปัจจุบันนั่นเอง
อย่างที่ 2 ที่วันนี้ได้มีโอกาสมาทดลองก็คืออุตสาหกรรมการขนส่งระบบราง (Rail Transit) ที่มีการออกแบบรถโดยสารไฟฟ้า ที่มีขนาดและความจุหลากหลายรูปแบบ โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีให้เลือกตามความเหมาะสมกับโครงการว่าต้องการขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด บีวายดีสามารถจัดการให้ได้ทั้งหมด
ธุรกิจที่ 3 ก็คือธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่ (New Energy) ที่เน้นการปรับใช้พลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสม และอย่างสุดท้ายที่ช่วยให้เขาเอาตัวรอดจากสถานการณ์การขาดแคลนชิปมาได้ ก็คือธุรกิจอีเลกทรอนิกส์ ที่บีวายดีเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่สามารถผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ได้เอง ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบในรอบปีที่ผ่านมาน้อยกว่าผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่น ๆ
ภารกิจ 7+4 สู่ยอดการผลิตเติบโต 3 เท่าตัวใน 1 ปี
ภายใต้การบริหารงานของบีวายดีนั้น หนึ่งในแผนงานหลักที่ทำให้พวกเขาเดินหน้าขยายตัวอย่างไม่หยุดหย่อน ก็คือแผนงานที่เรียกว่า 7+4 ซึ่งเป็นเหมือนนโยบายหลักในการเดินหน้าพัฒนาสินค้าของพวกเขาออกมารองรับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก และทำให้บีวายดีมีความพร้อมในการรับมือกับความต้องการของลูกค้าในทุกตลาดอย่างชัดเจน
แผนงานดังกล่าวก็คือการออกแบบเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีสินค้าหลักอยู่ 7 ประเภท อาทิ รถยนต์นั่ง รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน พวกเขาก็จะเดินหน้าพัฒนาสินค้าสำหรับตลาดเฉพาะด้าน 4 กลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ อาทิ รถสำหรับการใช้งานในเหมือง ซึ่งทำให้พวกเขารองรับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ในแผนงานต่าง ๆ ก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไป เช่น กลุ่มรถยนต์นั่งที่เน้นการขยายให้รองรับทั้งตลาด PHEV และตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยตัวถังหลายรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้บีวายดีมียอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นจาก 7.2 แสนคันในปี 2021 มาเป็น 1.8 ล้านคันในปี 2022 พร้อมด้วยยอดการผลิตที่เติบโตกว่า 3 เท่าตัวภายใน 1 ปีเท่านั้น
ชูนวัตกรรมเหนือชั้น ทั้งยานยนต์และธุรกิจอื่น
หากใครได้เดินทางมาที่สำนักงานใหญ่ของบีวายดี และมีโอกาสมาเดินชมในพื้นที่จัดแสดงความน่าประทับใจของแบรนด์ คุณจะต้องเดินผ่านกำแพงที่สูงเท่าเพดาน และมีเอกสารทางการติดอยู่เต็มกำแพงไปหมด นั่นคือเอกสารแสดงสิทธิบัตรทางด้านเทคโนโลยีที่บีวายดีได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจำนวน 1,250 ชิ้นที่นำมาจัดแสดงให้ชมกัน
แต่จริง ๆ แล้ว บีวายดีถือเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อแห่งวงการสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยี พวกเขามีการเสนอเพื่อขอจดสิทธิบัตรเข้าไปแล้วมากกว่า 4 หมื่นรายการ และได้รับการรับรองมาแล้วกว่า 2.8 หมื่นรายการ โดยในจำนวนนี้เป็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์มากกว่า 1.2 หมื่นรายการ ซึ่งหากจะบอกว่าพวกเขานั้นขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมก็คงไม่แปลก
"สิ่งที่ BYD ทำในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่และมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก อาจจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใดเคยทำมาในรอบ 100 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์เลยทีเดียว" Liu Xueliang กล่าว
ทีมงานของแบรนด์บอกว่า นวัตกรรมนั้นเปรียบเสมือดีเอ็นเอของแบรนด์ เห็นได้จากตัวเลขพนักงานแผนกวิจัยและพัฒนาที่มีอยู่มากกว่า 6.9 หมื่นคน หรือมากกว่า 10% ของพนักงานทั้งบริษัทที่มีอยู่ราว 6 แสนคัน เพื่อให้มอตโตของบริษัทที่ว่า Technological Innovation for A Better Life นั้นสามารถทำได้จริง ผ่านสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่แบรนด์มีให้
แล้วอะไรคือแหล่งกำเนิดของนวัตกรรมเหล่านั้น เดี๋ยว EP2 จะพาบุกโรงงานและศูนย์ทดสอบกันอีกทีละกัน...