ต้องบอกก่อนว่าการทดลองขับสั้น ๆ ของเราในวันนี้นั้น เป็นการทดลองขับแบบสั้น ๆ ประมาณ 2-3 รอบของสนามทดสอบ ที่มีการกำหนดทางวิ่งและเส้นทางในการทดสอบชัดเจน เรียกว่าเป็นการสัมผัสกันแบบน้ำจิ้มกันหลังเปิดตัว เพื่อที่จะให้ตอบคำตอบเรื่องการใช้งานต่าง ๆ กันได้ดีมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องการใช้งาน
เรื่องแรกที่เป็นที่น่ายินดีมากสำหรับผมก็คือการที่พี่ใหญ่อย่างอีซูซุนั้น พรีเซนต์ถึงโปรดักส์ใหม่ของพวกเขาโดยเน้นเรื่องของเทคโนโลยี ระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้น แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เน้นเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภคเป็นหลัก หลังจากเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน ดูแลรักษาไม่แพงมายาวนาน
Isuzu MU-X ยิ่งเห็นต้องบอกว่ามันดูใหญ่จริง และงานก็พรีเมียมจริง ๆ คือดูแล้วหรูหราไปเลย แตกต่างจากคนอื่น ตลอดหัวจรดท้ายของรถนั้นดูเน้นไปที่ความเรียบหรูในงานออกแบบ ที่สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่ภายในที่มีการเลือกสีของวัสดุต่าง ๆ มาประกอบกันอย่างลงตัว ขอบอกว่าสีทองแชมเปญนั้นสวยงามจริง ๆ
จากเบรกมืออันใหญ่ ๆ ยุคโบราณ พวกเขาเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่มระบบหยุดรถอัตโนมัติเมื่อจอด พร้อมด้วยแป้นเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนแบบหมุนอันใหญ่ที่ดูลงตัว หน้าจอแสดงข้อมูลขนาดเล็กที่ดูเหมือนจะเหมือนกับดีแมคซ์ ก็ได้รับการยืนยันว่ามีการปรับในเรื่องของสีสันของหน้าจอให้ดูพรีเมียมมากขึ้นเช่นเดียวกัน
กระโดดขึ้นรถแล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์แบบอีซูซุนั้นครางกระหึ่ม รุ่นที่นำมาให้ทดสอบกันเป็นรุ่นท็อป เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ กดคันเร่งไปแรง ๆ ตัวรถก็ออกตัวไปแบบไม่กระตือรือล้นอะไรมาก อันนี้เป็นลักษณะนิสัยของเครื่องยนต์ตัวนี้อยู่แล้ว ผมว่าแฟน ๆ อีซูซุเองก็คงเข้าใจกับคาแรคเตอร์ของรถอยู่แล้ว
สิ่งที่เซอร์ไพร์สมากกว่าคือความคมของพวงมาลัยที่เซตมาได้อย่างลงตัวพอดีกับน้ำหนักรถ เรียกว่าการปาดรถไปทางซ้าย-ขวานั้นทำได้อย่างสนุกสนานไม่มีอาการโยนตัวของรถมากมาย แถมยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบเตือนรถไหลออกจากเลน ที่ใช้งานได้จริง อันนี้ถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่ที่น่าสนใจ
การถ่ายน้ำหนักตัวของรถทั้งด้านหน้า-หลังและซ้าย-ขวาระหว่างการขับทดสอบถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม Isuzu MU-X มีอาการโคลงอยู่บ้างเนื่องจากเป็นรถที่สูง น้ำหนักมาก แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ และการคืนตัวของรถก็ทำได้อย่างรวดเร็ว และมีความคล่องตัวในการขับขี่ที่จัดว่าดีในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ
ระบบเบรกของ Isuzu MU-X ให้การตอบสนองที่ดี หากต้องการชะลอรถที่ความเร็วปานกลาง กดแป้นไม่ต้องมาก รถก็ชะลอแล้ว แต่หากเป็นการเบรกฉุกเฉินที่มีการกดคันเร่งอย่างรุนแรง ตัวรถ Isuzu MU-X จะมีอาการหน้าทื่อนิดหน่อย ด้านท้ายของ MU-X ก็จะยกตัวสูงขึ้นนิดนึง อันนี้สังเกตได้จากตอนทดสอบระบบเบรกอัตโนมัติ รถนั้นจะออกอาการมากหน่อย
การดูดซับแรงกระแทกของ Isuzu MU-X ทำได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ แรงกระแทกของ Isuzu MU-X เป็นไปอย่างนุ่มนวลเหมาะกับถนนทุกรูปแบบ และรองรับการเปลี่ยนเลนแบบกระทันหันได้เป็นอย่างดี การเก็บเสียงของกระจกบ้านหน้านั้นสุดยอดเหมือนเดิม เสียงที่ดังที่สุดในการทดสอบก็คือเสียงของเครื่องยนต์ที่ครางกระหึ่มเวลากดคันเร่งแรง ๆ เท่านั้นล่ะ
สั้น ๆ หลังจากขับมา 2-3 รอบ ต้องบอกว่าอีซูซุนั้นทำ MU-X รุ่นนี้ออกมาได้ดีแบบก้าวกระโดด เพราะพื้นฐานของรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี มาผสานกับงานออกแบบที่ทำมาดีขึ้น ดูไปนาน ๆ แล้วจะชินตาได้ไวมาก ห้องโดยสารสะดวกสบายใช้งานได้จริง เรียกว่าน่าจะเป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และก็คงขายดีอยู่เหมือนเดิม
นอกเหนือจากการทดลองการขับขี่แล้ว ในงานทดสอบ อีซูซุยังได้จัดให้มีการแสดงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชนด้านหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบตัดการทำงานของคันเร่ง กรณีเหยียบผิดและมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีการติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามา
หรือแม้แต่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ที่มาพร้อมระบบหยุดรถและเคลื่อนรถอัตโนมัติที่ทำงานในทุกย่านความเร็วเป็นครั้งแรก เอาเป็นว่าใครที่เคยบอกว่าชอบซื้อรถเพราะเทคโนโลยีสูงส่งและเคยมองข้ามแบรนด์อีซูซุไป อาจจะต้องคิดกันใหม่ เพราะ MU-X โฉมนี้ จัดเต็มระบบทุกอย่างมาให้อย่างเต็มที่ แบบไม่ทิ้งความดีงามเดิม ๆ