Mazda CX-5

ภายนอก Mazda CX-5 เหมือนเดิมเกือบทั้งหมด

อย่างที่บอกว่ารถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นนี้นั้นมีความโดดเด่นด้านการออกแบบภายนอกอยู่แล้ว เมื่อมาสด้าทำการอัพเกรด พวกเขาจึงแทบไม่ไปแตะต้องอะไรที่มันดีอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงมีเพียงจุดเดียว นั่นคือการเปลี่ยนไฟกรอบป้ายทะเบียนเป็นแบบแอลอีดี ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าไม่บอกก็คงไม่สังเกตุ
การออกแบบตัวถังที่โดดเด่น มาพร้อมชุดไฟที่โดดเด่นทั่วทั้งคัน ประกอบไปด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เลนส์ แบบแอลอีดี พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลาวิ่งกลงวันแบบแอลอีดี ซิกเนเจอร์ พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยว
ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบแอลอีดี ไฟท้ายแบบแอลอีดี ซิกเนเจอร์ ดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย 5 ก้านคู่ หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เสาอากาศแบบครีบฉลาม และท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต พร้อมปลายท่อแบบโครเมียม ซึ่งทำให้รถที่มีตัวถังใหญ่ดูแข็งแกร่งบึกบึน

2022 Mazda CX-50 เผยโฉมแน่ปลายปีนี้ ชมคุณสมบัติสำคัญที่จะใช้ไล่บี้ BMW

ห้องโดยสาร CX-5 ก็ปรับเล็กน้อยเช่นเดียวกัน

มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยภายในห้องโดยสารของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เอ็กซ์ดีแอล ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนให้มีรายละเอียดที่ดีขึ้น สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศ ดีไซน์ใหม่ พร้อมปุ่มควบคุม Center Command ตรงกลางแบบใหม่ มาตรวัดวงกลางดีไซน์ใหม่ แบบดิจิตอลสีขนาด 7 นิ้ว
นอกจากนี้ ก็มีการเพิ่มกระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลงอัตโนมัติ ทั้ง 4 บาน และเครื่องเสียงรุ่นใหม่ ที่รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ นอกนั้นยังคงความดุดันของห้องโดยสารเอาไว้ ด้วยโทนการแต่งห้องโดยสารสีดำ พร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีน้ำตาล
เพิ่มอรรถประโบชน์ด้วยเบาะนั่งด้านหลังที่ปรับเอนได้ และพับอิสระ 40 : 20 : 40 พร้อมปุ่มควบคุมการพับเบาะจากที่เก็บสัมภาระ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หน้าจอกลางแบบสัมผัส 7 นิ้ว

Mazda CX-5 อัพเกรดระบบเพิ่มความปลอดภัย

นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์แล้ว มาสด้าได้ทำการเพิ่มอุปกรณ์และอัพเกรดระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่เพิ่มในรุ่นนี้ โดยพวกเขาทำการอัพเกรดระบบควบคุมเรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control Plus เพื่อรองรับกับการขับขี่ทุกรูปแบบ เพิ่มความไว้วางใจให้กับผู้ขับขี่
รวมไปถึง การอัพเกรดระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติเป็นแบบ Advanced SCBS เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้อย่างดี และเป็นครั้งแรกที่ Mazda CX-5 มาพร้อมระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เอาเป็นว่า ถือว่าครบครันที่สุดในรถยนต์เซกเมนต์เดียวกัน
การใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปมากมายใน Mazda CX-5 รุ่นเอ็กซ์ดีแอล ทั้งที่มีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าเพียง 2 หมื่นบาทเท่านั้น ทำให้ตัวรถที่ดูเหมือนว่าจะมีราคาแพง ดูมีความคุ้มค่าขึ้นมามากขึ้น เพราะระบบพื้นฐานที่พวกเขาให้มาแต่แรกก็ถือว่าเพียบพร้อมอยู่แล้ว

อุปกรณ์และระบบเดิมล้นคัน

มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ถือเป็นเอสยูวีที่ของเล่นเยอะมากในรถหนึ่งคัน บรรยายกันได้หลายชั่วโมง แต่เอาที่ชอบจริง ๆ ก็คงจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง เช่น ระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE® ที่มาพร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง สาแก่ใจคนชอบฟังเพลง หรือฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าก็ใช้งานได้จริง
หากมองไปที่ระบบความปลอดภัย ก็จะพบว่ารถรุ่นนี้ให้ของมาเต็มที่ ตั้งแต่ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน
Mazda CX-5 มาพร้อมระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

เครื่องยนต์ของ Mazda CX-5 ปรับสมรรถนะสุดเร้าใจ

แม้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-ดี ของพวกเขาจะได้รับการยอมรับว่ามันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว แต่ในเวอร์ชั่นปรับโฉม มาสด้าก็ได้ทำการปรับแต่งเครื่องยนต์ของเขาอีกเล็กน้อย และผลที่ได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อพวกเขาสามารถเรียกพละกำลังเพิ่มได้อีก 15 แรงม้า พร้อมแรงบิดอีก 30 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เวอร์ชั่นใหม่ ยังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2,191 ซีซี. พ่วงเทอร์โบแบบ 2 สเตจ ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้สมรรถนะเร้าใจเต็มพิกัด
การตอบสนองของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ถือว่ามีความจี๊ดจ๊าดมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ตัวรถสามารถเรียกพละกำลังมาได้อย่างต่อเนื่อง ระบบส่งกำลังไหลลื่น ทำให้ Mazda CX-5 แม้จะเป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้มีอาการอืดอาดให้เห็น แถมด้วยความยอดเยี่ยมของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พาตะลุยไปได้ทุกที่

2019 Mazda CX-5 เป็นรถยนต์กลุ่มซี-เอสยูวีที่ผลิตโดย มาสด้า ในประเทศไทย ทำตลาดในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีระดับคอมแพ็กต์ เปิดตัวโฉมล่าสุดในช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยรุ่นเบนซิน 2.0 ลิตรอยู่ที่ 13.9 กม.ต่อลิตร รุ่นดีเซลเทอร์โบ 18.2 กม.ต่อลิตร และรุ่นเบนซินเทอร์โบ 12.0 กม.ต่อลิตร  

Mazda CX-5 ดีขึ้นทุกด้าน ถ้าจ่ายไหวก็ไปได้เลย

เวลาที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อรถยนต์เอสยูวีสักคันในประเทศไทย พวกเขามีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งเรื่องของแบรนด์ ภาพลักษณ์ ระดับราคา ที่สามารถเลือกได้อย่างมากมายตั้งแต่ล้านต้น ๆ มาจนถึงเกือบ 2 ล้าน ถือเป็นตลาดที่กว้างมาก แม้จะมีผู้ประกอบการไม่กี่รายในประเทศ
มาสด้าเองเข้าสู่ตลาดด้วยการวางราคาเริ่มตั้งแต่ระดับกลางมาถึงท็อป โดยมีทางเลือกไม่มาก หากคุณอยากได้รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะถ้าไม่เอาเครื่องดีเซลตัวนี้ ก็เหลือทางเลือกเดียวคือรุ่นเบนซิน เทอร์โบ ที่สมรรถนะจี๊ดจ๊าด แต่แน่นอนว่าต้องกินน้ำมันมากกว่าอย่างแน่นอน
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-ดีของมาสด้า ไม่ได้มีดีแค่ความแรงอย่างเดียว ในเรื่องของความประหยัดนั้นก็ยังถือว่าโดดเด่น แม้ว่าจะอยู่บนตัวถังขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักพอตัว อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ทำกันได้ก็ถือว่าไม่น่าเกลียด ทำให้ Mazda CX-5 น่าใช้งานเพิ่มมากขึ้นไปอีกปัญหาเดียวก็คือค่าตัว 1.79 ล้านบาทหลังปรับราคานี่ล่ะ ซึ่งแม้ว่าเราจะมองว่า Mazda CX-5 มีความคุ้มค่ามากขึ้นจากการปรับราคาขึ้นมาแค่ 2 หมื่นบาทแล้วก็ตาม แต่การเป็นรุ่นท็อปไม่มีอะไรง่าย เพราะผู้บริโภคต้องถามอยู่แล้วว่า เราจำเป็นจะต้องจ่ายแพงขนาดนี้จริง ๆ หรือไม่
จ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้รถที่น่าใช้งานขึ้น ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยเต็มพิกัด มีอุปกรณ์ช่วยเหลือด้านการขับขี่แบบครบครัน บนตัวถังหน้าตาโฉบเฉี่ยวที่สุดในคลาส เอาเป็นว่าถ้ามองหารถกลุ่มนี้และจ่ายค่าตัวไหว รถคันนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

7 เรื่องเด่นที่ทำให้คุณจะยอมจ่ายค่าตัว 2019 Mazda CX-5