Lexus LM

2020 Lexus LM มากกว่ารถตู้ไฮโซคือที่สุดแห่งการเดินทาง

หลังจากที่โตโยต้าทำตลาดรถตู้พรีเมี่ยมในรุ่น Alphard มาเป็นเวลานานพอสมควรและได้รับความนิยมมากสำหรับลูกค้าในเอเชีย แต่ในกลุ่มลูกค้าเองก็ยังมีคนที่ต้องการความหรูหรามากขึ้นไปอีกแม้โตโยต้าจะมีรุ่น Executive Lounge มาทำตลาดแต่ก็ยังหรูไม่พอและบอดี้ด้านนอกที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากตัวปกติ โตโยต้าเล็งเห็นความต้องการตรงนี้จึงได้ทำตลาดกลุ่มใหม่ภายใต้แบรนด์เล็กซัสในการเปิดตัวรุ่น Lexus LM (เลกซัส แอลเอ็ม) ขึ้นซึ่งถือว่าเป็นรถตู้รุ่นแรกของเล็กซัสโดยเปิดตัวในปี 2019 ด้วยหน้าตาที่ดูแตกต่างจาก Alphard เป็นอย่างมากหรูและสวยกว่ามากๆ และเล็กซัสประเทศไทยก็ไม่รอช้ารีบนำเข้ามาทำตลาดในไทยเดือนมีนาคม 2020 โดยทำตลาดใน 2 รุ่นย่อยได้แก่ LM 300h ซึ่งเป็นรถตู้แบบ 7 ที่นั่งเหมือน Alphard และรุ่นที่เป็นไฮไลท์ที่หรูแบบสุดขีด LM 300h Executive ที่เป็นรถแบบ 4 ที่นั่งเรียกได้ว่ายกที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินมาไว้บนรถตู้เลยทีเดียว เปิดตัวที่ราคา 5.5 ล้านในรุ่น 7 ที่นั่ง และ 6.5 ล้านในรุ่น 4 ที่นั่ง

ราคาและผ่อนดาวน์ Lexus LM

การออกแบบภายนอก Lexus LM

ตัวบอดี้แม้จะยกมาจาก Alphard ทั้งคันแต่ดีไซน์ด้านหน้าและด้านหลังคือสิ่งที่ LM 300h ต่างจากรถตู้ทั่วไป ยกระดับความหรูหราขึ้นไปอีกขั้นด้วยกระจังหน้า Spindle Grill ขนาดใหญ่พิเศษตกแต่งด้วยโครเมี่ยมสีออกด้านนิดๆ ไฟหน้า LED 3 ก้อนมาพร้อมไฟเดย์ไลท์ทรงตัว L ตกแต่งชายล่างบริเวณไฟตัดหมอกด้วยแถบโครเมี่ยมเช่นกัน ด้านข้างสัดส่วนเหมือน Alphard ทุกประการยกเว้นแถมโครเมี่ยมตกแต่งบริเวณประตูสไลด์ข้างที่ดูโฉบเฉี่ยวและล้อแม็กขนาด 17 นิ้วลายพิเศษ Alm Spat Lexus ที่เป็นซี่แบบที่ดูแล้วเด่นสุดๆแต่น่าจะทำความสะอาดลำบากสุดๆเช่นกัน ด้านท้ายก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ด้วยไฟท้ายขนาดใหญ่พาดยาวตลอดคันรถทรงสวยเท่ ยิ่งเปิดไฟเลี้ยวแบบวิ่งยิ่งเด่น ขับตามตอนกลางคืนคือสวยมาก บริเวณชายล่างตรงแต่งด้วยแถบโครเมี่ยมพาดยาวจากทับทิมหลังทั้ง 2 ฝั่ง

มิติตัวรถ Lexus LM

การออกแบบภายใน Lexus LM

ภายในห้องโดยสารของรุ่นเริ่มต้น Lexus LM มาพร้อมที่นั่ง 7 ตำแหน่งที่แพทเทิร์นให้ความรู้สึกไม่ต่างกับ Alphard Executive Louge ใช้วัสดุหนังแบบ Semi-Aniline ในการตกแต่งแทรกด้วยทริมลายไม้สีเข้มตลอดคัน เบาะโดยสารด้านหน้าเป็นเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับผู้โดยสาร สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง เบาะแบบ Captain Seat ใช้ในแถวที่ 2 โดยตัวเบาะมีที่พักแขนให้ครบทั้ง 2 ด้านซ้ายขวา มีโต๊ะพับเล็กๆซ่อนอยู่สามารถนำมาวางหนังสือเล่มเล็กหรือจะเอาไว้เซ็นเช็คได้ง่าย พนักพิงศีรษะมีหมอนอิงเล็กๆกันศรีษะไถลออกจากเบาะเวลาเผลอหลับเพราะเบาะออกแบบมาได้สบายเกินไป สามารถปรับตำแหน่งด้วยการเลื่อนสไลด์หน้าหลังได้ ที่นั่งแถวสามเป็นแบบ 3 ที่นั่งติดกันขนาดใหญ่พอสมควร รองรับสรีระผู้ใหญ่ได้ดี มีจอให้ผู้โดยสารตอนหลังขนาด 13.3 นิ้วไว้รับชมความบันเทิง มีไฟตกแต่งในห้องโดยสารที่สามารถปรับสีได้ 16 สี มีซันรูฟให้ทั้งตอนหน้าและตอนหลังของรถ สำหรับรุ่น Executive ด้านหน้าเหมือนรุ่นปกติแต่ด้านหลังคือไฮไลท์ที่เรียกได้ว่าหรูกว่ารถทั้งหมดทั้งมวลที่มีมา เบาะนั่งแบบพิเศษ Executive Seat ที่เหมือนยกที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของเครื่องบินมาไว้บนรถตู้โดยมีแค่ 2 ที่นั่งแบบนั่งคู่กัน มาพร้อมระบบนวดเต็มรูปแบบและระบบรองรับต้นขา ระบบปรับเอนเพื่อนอนได้ มีแท่นควบคุมความบันเทิงตรงกลางบริเวณติดกับที่เท้าแขนโดยนำไว้ควบคุมจอกลางที่ติดตั้งเป็นพิเศษบริเวณฉากกั้นห้องโดยสารตอนหน้ากับตอนหลังขนาด 26 นิ้วพร้อมระบบเครื่องเสียงจาก Mark Levinson ให้ประสบการณ์ความบันเทิงแบบจัดเต็ม เหนือจอกลางเป็นนาฬิกาแบบเข็มดีไซน์หรูและมีช่องกระจกแบบพิเศษที่เลือกได้ว่าจะเปิดเพื่อสื่อสารกับคนขับหรือจะปิดเพื่อกันเสียงรบกวนหรือจะทำให้กระจกเบลอเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ได้ 

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก Lexus LM

เพื่อการเป็นเจ้าแห่งรถตู้สุดพรีเมี่ยม LM 300h มาพร้อมประตูสไลด์แบบไฟฟ้าซ้ายขวา ฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้า โดยทั้งหมดมาพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน พร้อมระบบกรองอากาศและฟอกอากาศ Nano-e กระจกรอบคันตัดแสง UV โดยครึ่งคันหน้าเป็นแบบ Acoustic glass ลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติพร้อมสามารถเปลี่ยนมาแสดงภาพจากกล้องมองหลังแทนได้ หน้าจอกลางแบบสัมผัสรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ จอด้านหลังสามารถเล่น Blu-ray หรือต่อ HDMI แสดงภาพได้ เครื่องเสียงมาพร้อม Mark Levinson โดยตัวเริ่มต้นมี 17 ลำโพง และรุ่น Executive มี 19 ลำโพง เบาะแถวสองมาพร้อมระบบปรับเอนและรองรับต้นขาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นและรุ่นท้อปมาพร้อมระบบนวดเต็มพิกัด มีตู้เก็บความเย็นส่วนตัวไว้ใส่เครื่องดื่มได้ด้วย

ระบบความปลอดภัย Lexus LM

Lexus LM 300h มาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบทั้ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) และระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟ Lexus Safety System + ได้แก่ ระบบป้องกันก่อนการชนพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (PCS) ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (PSB) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC : All-Speed) ระบบติดตามช่องทางวิ่ง (LTA) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (TPW) ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบเตือนมุมอับสายตา (BSM) ระบบเตือนมุมอับท้ายรถขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (PAS) พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา ถุงลมนิรภัยมีมาให้ 7 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านนิรภัยข้าง 2 ตำแหน่ง และบริเวณหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง

ขุมพลังและสมรรถนะ Lexus LM

Lexus LM 300h มาพร้อมขุมพลังเบนซินไฮบริด โดยเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2AR-FXE ขนาดความจุ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4400 - 4800 รอบ/นาที ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าใช้มอเตอร์ 2 ตัวหน้าหลัง แรงดัน 650 โวลต์ โดยมอเตอร์หน้าให้กำลัง 143 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลังให้กำลัง 68 แรงม้า แรงบิด 139 นิวตันเมตร พละกำลังรวมของทั้งระบบอยู่ที่ 197 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ E-Four อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 15.6 กม./ลิตร อัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 150 กรัม/กม.

เครื่องยนต์ไฮบริดของ Lexus LM ให้กำลังที่ดี แน่นอนหล่ะว่ามันคงไม่ได้ปรู้ดปร้าดอะไรมากแต่อัตราเร่งไม่ขี้เหร่แน่นอน ไม่แน่ใจว่าถ้าตอนบรรทุกเต็มแล้วจะเป็นอย่างไรแต่จากที่ลองนั่งมา 2 คัน ให้อารมณ์เหมือนขับรถ D-Segment ที่ใหญ่แต่เร็ว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งกำลังได้ไว มันทำให้การขับในเมืองง่ายและสบาย ช่วงล่างซับแรงกระแทกได้ดีตามสไตล์เล็กซัส โยนน้อยกว่าของ Alphard การจะเปลี่ยนเลนหรือจะถอยก็ทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีกระจกมองหลังที่กลายเป็นกล้องหลังได้ทำให้ขับแล้วมั่นใจมากขึ้น และมีเซนเซอร์คอยช่วยเหลือ

ถ้าคุณได้มาลองเป็นผู้โดยสาร Lexus LM ในแถวสองแล้วคุณคงไม่อยากจะกลับไปขับรถเองอีกเลย ความสบายคือที่สุด การปรับเอนเบาะด้วยไฟฟ้ารองรับสรีระได้อย่างดีขนาดแค่รุ่นเริ่มต้นคุณก็รู้สึกถึงความสบาย ความเงียบ อย่างเต็มที่ การปรับรองรับต้นขาและปลายเท้าได้ดี เรียกว่านั่งไปหลับไปได้ หรือถ้าอยากจะดื่มดำกับเพลง เครื่องเสียง Mark Levinson เหมือนยกคอนเสิร์ตส่วนตัวมาไว้บนรถเลย มีช่องใส่นิตยสารและโต๊ะพับให้ด้วย สำหรับรุ่น Executive นี่ไม่รู้จะหาคู่แข่งที่ไหนมาเปรียบเทียบนอกจากที่นั่งบนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางเพราะคุณเอาที่ของคน 5 คนนั่งในรุ่นเร่มต้นมานั่งกันแค่ 2 คน เบาะใหญ่มาก และเอนได้หลายรูปแบบ มีระบบนวด มีจอส่วนตัวเหมือนเป็นเลานจ์ชั้นดีที่เคลื่อนที่ได้ น่าประทับใจสุดๆ

Lexus LM 300h คือรถที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่สบายที่สุดและให้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ในรุ่น 7 ที่นั่งคุณจะได้ประสบการณ์แบบ Executive Lounge บน Alphard บนหน้าตารถที่เท่และสวยกว่ากันมาก ราคาก็ถือว่าแทบไม่หนีกันแล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องเลือก Alphard อีก ขณะเดียวกันในรุ่น Executive ถ้าคุณต้องการการเดินทางแบบเป็นส่วนตัวและสบายสุด พื้นที่กว้างขวางยืดเหยียดได้เต็มที่ และระบบเครื่องเสียงที่เหมือนยกคอนเสิร์ตส่วนตัวมาไว้ในรถ รุ่นนี้คือคำตอบ