Suzuki Ertiga

Spark Your Performance นิยามการออกแบบภายนอกตัวรถยนต์ที่อิงตามหลักอากาศพลศาสตร์ทำให้มีแรงเสียดทานอากาศต่ำ มีผลกับการขับขี่ของรถยนต์ทำให้มีความมั่นใจและเพิ่มประสิทธิภาพในเวลาขับทางไกลรวมถึงการใช้ความเร็วอีกด้วย รวมถึงเส้นสายบนตัวรถยังให้ความโดดเด่นและสวยงามขึ้นอีก

เพิ่มความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียม รวมถึงไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ที่ให้มาทั้งสองรุ่นย่อย และเสริมด้วยไฟตัดหมอกที่ให้มาในรุ่น 1.5 GX เท่านั้น ในส่วนของไฟท้ายเป็นแบบ LED โดยตัวท๊อป 1.5 GX จะเป็นแบบ LED Light Guides เสริมความโดดเด่นในยามค่ำคืน และกระจกข้างสีเดียวกับตัวรถที่มาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้า ส่วนตัวท๊อปนั้นเพิ่มระบบพับและไฟเลี้ยวที่กระจกข้างมาให้

ในส่วนของที่ปัดน้ำฝนมีมาให้ด้านหน้าปรับได้ 2 ระดับรวมถึงแบบหน่วงเวลา พร้อมที่ฉีดน้ำ มาที่ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังเป็นแบบหน่วงเวลา 1 จังหวะพร้อมที่ฉีดน้ำ ด้านล้อให้มาเป็นล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว ตัวท๊อปนั้นจะได้เป็นล้ออะลูมิเนียมอัลลอยสีทูโทนขนาด 15 นิ้วเช่นกัน รัดด้วยยางขนาด 185 / 65 R15 พร้อมยางอะไหล่ขนาดเดียวกันแต่เป็นล้อกะทะ

ในด้านของการปรับปรุงข้อด้อยของรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่เบาะโดยสารแถว 2 และเบาะโดยสารแถว 3 ที่นั่งค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะเบาะแถว 3 ที่ใครได้นั่งในระยะทางไกล ๆ อาจจะต้องมีเมื่อยหรือชันเข่ากันบ้าง โดยทาง ซูซูกิได้แก้ไขข้อด้อยของเบาะโดยสารได้ดีทีเดียว

โดยเบาะแถว 2 ได้เพิ่มหมอนรองศีรษะมาให้ได้นั่งกันสบายขึ้นอีกนิด รวมถึงเบาะแถว 3 ที่มีพื้นที่ขาเหลือเยอะมากกว่าตัวก่อนหน้า และยังสามารถปรับเอนเพิ่มได้อีกนิดด้วย ทำให้เหมาะแก่ครอบครัวที่คนเยอะ หรือมีผู้โดยสารไปกันเยอะแบบไม่นั่งทรมานมากในเบาะแถว 2 และ 3 อีกด้วย รวมถึงยังมีแอร์หลังพร้อมลูกบิดปรับแรงลมแบบแยกจากแถวหน้า ทำให้การโดยสารไปกับเจ้า Suzuki Ertiga นี้สบายขึ้นพอตัว

อีกทั้งเบาะแถว 2 และ 3 ยังสามารถปรับพับได้ เพื่อการบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม ในกรณีที่ต้องไปบรรทุกสัมภาระเยอะหรือชิ้นใหญ่ ทำให้มีความจุของสัมภาระมากถึง 803 ลิตรกันเลยทีเดียว ถือว่า Suzuki Ertiga เป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์ใช้งานได้ทั้งโดยสารและขนสัมภาระ

หากถามถึงระบบความปลอดภัยในรถครอบครัวไซด์นี้ มองราคาแล้วจะต้องมีระบบทันสมัยต่าง ๆ เข้ามาก็คงจะกดราคาให้อยู่ในเรตนี้ก็คงยาก เอาเป็นว่าระบบความปลอดภัยที่ให้มาแม้จะไม่ได้ดูเยอะแยะ แต่ก็ใช้งานได้จริงทั้งหมด รวมถึงยังลดค่าบำรุงรักษาหรือการซ่อมแซมถูกกว่ารถยนต์ที่มีระบบใหม่ ๆ อีกด้วย

สิ่งที่ต้องมีเลยคือ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และยังให้เข็มขัดนิรภัยมาทุกที่นั่งครบทั้ง 7 ที่นั่ง รวมถึงจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) อีก 2 จุด ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer เซ็นเซอร์ถอยหลัง รวมถึงระบบ ABS และ EBD มีระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบช่วยเบรก และระบบช่วยออกตัวชณะอยู่บนทางลาดชัน

ระบบความปลอดภัยที่ Suzuki Ertiga ให้มาอาจจะดูน้อย แต่นี่คือมาตราฐานของรถยนต์สมัยนี้ที่ควรจะมีครบ จะช่วยทำให้ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้มากพอสมควร รวมถึงยังช่วยในเรื่องของค่าบำรุงรักษา ที่เหมาะกับการเป็นรถยนต์ครอบครัวไซด์เล็กขนาด 7 ที่นั่งได้อย่างดี

ในด้านของเครื่องยนต์ ซูซูกิ เออร์ติก้า ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเหมือนรุ่นก่อนหน้าในรหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ โดยมีการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 14 – 15 กิโลเมตร/ลิตร

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นทาง ซูซูกิ ก็ยังคงมั่นใจใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม เพราะนี่อาจเป็นเพียงแค่รุ่นปรับโฉมเท่านั้น จึงมุ่งไปปรับปรุงจุดด้อยอื่นมากกว่า หากพูดถึงการขับขี่ของเครื่องยนต์ตัวนี้ ก็ยังคงมั่นใจและใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีเยี่ยมเช่นเคย
รวมถึงในด้านของการบริโภคน้ำมันเครื่องยนต์ในขนาด 1.5 ลิตรที่ทาง ซูซูกิยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมอยู่ ก็ยังคงให้ความประหยัดน้ำมันและสามารถเป็นขุมพลังกับรถครอบครัวไซด์ขนาดนี้ในระดับ 7 ที่นั่งได้อย่างเพียงพอ

ในรุ่นก่อนหน้าอาจจะมีหน้าจอที่ให้มาไม่สมกับการเป็นรถยนต์ครอบครัวซักเท่าไร แต่ในรุ่นปรับโฉมนี้ทาง ซูซูกิ ได้จัดหน้าจอขนาด 10 นิ้ว รวมถึงระบบสัมผัสมาให้ คล้ายกับได้ยินเสียงลูกค้าบ่นยังไงยังงั้นเลย เอาเป็นว่าถือว่าเปลี่ยนไปขนาดนี้ต้องปรบมือให้หน่อยสำหรับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจนขึ้น ถึงจะใส่มาให้ในตัวท๊อปก็เถอะ

รวมถึงยังรองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์ พร้อมเชื่อมต่อบูลทูธได้ พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง และยังมีช่อง USB AUX และตัวท๊อปมีช่อง HDMI จัดมาให้ด้วย ถือว่าระบบให้ความบันเทิงเหมากับรถยนต์ครอบครัว เวลาไปเที่ยวไหนมาไหน จะได้น่าใช้งานมากขึ้น
ในด้านของระบบปรับอากาศปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบดิจิตอล ที่ในรุ่นเดิมยังเป็นลูกบิดแบบโบราณอยู่ ก็ยังถือว่าเริ่มตามสมัยนิยมกับคู่แข่งขึ้นมาบ้างแล้ว แถมยังให้ระบบกรองกาศมา รวมถึงหน้าปัดแสดงผลแบบอนาล็อคทรงวงกลม 2 วงที่ด้านซ้ายจะแสดงรอบเครื่องยนต์ ด้านขวาแสดงความเร็ว และมีหน้าจอดิจิตอลแสดงรายละเอียดสถานะของรถยนต์อีกด้วย

ในรถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก 7 ที่นั่งหากมองในตลาดรถยนต์ไซด์นี้ คงมีคู่แข่งไม่เยอะเท่าไร หากมองถึงความคุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มเติมมา 30,000 บาทนั้น ก็ยังคงเป็นตัวเลือกในอันดับต้น ๆ ของรถยนต์ระดับเดียวกันได้ แต่หากอยากได้มากกว่านี้ คงจะต้องมองรถยนต์ในเซกเม้นท์อื่นกัน

เพราะความคุ้มค่าของ Suzuki Ertiga อยู่ที่ความประหยัด ดูแลรักษาง่าย รวมถึงยังมีความอเนกประสงค์ของตัวรถในเรื่องของการโดยสารและขนสัมภาระ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อพิจารณาในรถยนต์ที่มีความน่าใช้งานได้ในทุก ๆ วันได้อย่างแท้จริง