Mercedes-Benz GLA-Class

มิติตัวถัง 

ดีไซน์ทรงพลัง ขับขี่คล่องตัว 

Mercedes-Benz GLA-Class ยังคงมาพร้อมดีไซน์ทรงพลังตามแบบรถคอมแพ็คหรู ที่ผสานทั้งความสปอร์ต ความปราดเปรียว ความทันสมัยได้อย่างลงตัว โดยรุ่น Progressive มาพร้อมกันชนหน้าหลัง Progressive bodystyling ขณะที่ AMG Dynamic โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Diamond Grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ขนาดใหญ่ที่ดูหรูหรา กันชนหน้าหลังเป็น AMG bodystyling ไฟหน้าเป็นแบบ LED High Performance ที่ทำงานคู่กับไฟ Daytime สำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน ขณะที่ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟเบรก และไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เช่นกัน กระจกมองข้างสามารถปรับและปพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างด้านคนขับและกระจกส่องหลังสามารถปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ส่วนด้านล่าง Mercedes-Benz GLA-Class 200 Progressive เป็นล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่น AMG Dynamic เป็นล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Tremolite grey และทั้งสองรุ่นยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ทำให้ตัวรถโดดเด่นขึนกว่าเดิม
ขณะที่ Mercedes-Benz AMG GLA 45 4MATIC ต่างจากรุ่น AMG Dynamic ตรงที่กระจังหน้าเป็นแบบ AMG-Specific radiator grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ขนาดใหญ่ ด้านข้างตัวรถตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ TURBO 4MATIC สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้ายเป็นแบบ AMG spoiler lip ด้านล่างมาพร้อมท่อไอเสีย AMG exhaust system 2 ท่อ ขณะที่ล้อเป็นดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 19 นิ้ว

ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ห้องโดยสารภายในของ Mercedes-Benz GLA-Class ออกแบบกว้างขวางนั่งสบาย วัสดุอุปกรณ์ใช้คุณภาพดี โดยรุ่น Progessive มาพร้อมเบาะหุ้มหนัง ARTICO เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ มีระบบดันหลังสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าแบบ 4 ทิศทางที่ทำให้ผ่อนคลายในการเดินทาง เบาะหลังพับได้ 1/3 และ 2/3 เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้สอย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง ARTICO ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ THERMATIC ขณะที่มาตรวัดความเร็วเป็นแบบ digital instrumetn display ขนาด 7 นิ้ว ด้านระบบบันเทิงเป็นแบบ MBUX ใช้ระบบทัชสกรีนพร้อมหน้าจอ 10.25 นิ้ว สามารถสั่งงานและควบคุมได้ด้วย Touchpad ที่ทำให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อ Smartphone integration รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ขณะที่ Mercedes-Benz GLA-Class รุ่น AMG เพิ่มการตกแต่งภายในแบบ AMG interior package เบาะนั่งเป็น Sport Seats หุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ Sport steering wheel ตกแต่งด้วยหนัง nappa เสริมความสปอร์ตด้วยชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น มีไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารถึง 64 เฉดสี ส่วนมาตรวัดความเร็วเป็นแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว นอกจากระบบความบันเทิงพื้นฐานแล้ว ก็มีระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ3D ที่ทำให้การเดินทางง่ายขึ้นกว่าเดิม

ระบบความปลอดภัย

• ถุงลมนิรภัย
• ม่านถุงลมนิรภัยด้
• เข็มขัดนิรภัย
• กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ
• ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบเบรก Adaptive break พร้อมฟังก์ชั่น Hold และ Hill-Start Assist
• ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
• ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ 
• ระบบเตือนแรงดันยาง
• ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

• ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
• กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า
• พวงมาลัยพาวเวอร์
• ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ THERMATIC 1 โซน
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
• ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
• ปุ่มควบคุมเกียร์บนพวงมาลัย Shift Paddle 
• ฟังก์ชั่น ECO Start/Stop
• ระบบปรับโหมดการขับขี่

ระบบพลังงาน

Mercedes-Benz GLA 200 Progressive และ 200 AMG Dynamic ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาลว์ ขนาด 1.3 ลิตร พ่วงด้วยระบบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อ้ตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering wheel Gearshift Paddles) Mercedes-Benz GLA สองรุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัวเมตร ที่ 1,620-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใช้เวลา 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีระบบปรับโหมดการชับขี่แบบ Dynamic Select ที่ทำให้มั่นใจในทุกเส้นทาง
ขณะที่ Mercedes-Benz GLA 35 4MATIC ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาลว์ ขนาด 2.0 ลิตร พ่วงด้วยระบบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อ้ตโนมัติ 8 จังหวะ (AMG Speedshift DCT 8G) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering wheel Gearshift Paddles) Mercedes-Benz GLA 35 4MATIC ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัวเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใช้เวลา 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ AMG Dynamic Select ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AMG Performance 4MATIC

ดีไซน์สปอร์ต ขับขี่คล่องตัว สมรรถนะเร้าใจ

Mercedes-Benz GLA มีการออกแบบภายในห้องโดยสารกว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทำให้รู้สึกนั่งสบายขึ้น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมาให้ครบครัน ใช้งานง่าย สะดวก ด้านการขับขี่ก็ให้กำลังค่อนข้างเร้าใจ พวงมาลัยแม่นยำ น้ำหนักเบา ทำให้สามารถขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ทั้งยังมีระบบปรับโหมดการขับขี่ที่ทำให้มั่นใจในทุกสภาพพื้นผิว การขับขี่ในความเร็วสูงก็ยังทำได้ดี เกาะถนน การเลี้ยวโค้งมั่นใจ ถือได้ว่าตอบโจทย์การขับขี่ได้ดีทีเดียว

อัตราการประหยัดน้ำมัน

• Mercedes-Benz GLA 200 Progressive และ Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic ให้อัตราสิ้นเปลืองที่ 5.7-6.0 ลิตร/100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 130-137 กรัม/กิโลเมตร 
• Mercedes-Benz GLA 35 4MATIC ให้อัตราสิ้นเปลืองที่ 9.4 ลิตร/100 กิโลเมตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 219 กรัม/กิโลเมตร

หากใครกำลังมองหารถอเนกประสงค์หรูที่เน้นใช้งานที่มีดีไซน์โดดเด่น สปอร์ต ทันสมัย สามารถขับขี่ได้หลากหลายสภาพพื้นผิว ทั้งยังมีสมรรถนะดีเยี่ยม Mercedes-Benz GLA ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยการออกแบบให้คล่องตัว ใช้งานได้จริง ไซส์กะทัดรัดเหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยม อีกทั้งราคายังน่าดึงดูดด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.199 ล้านบาท เรียกได้ว่า Mercedes-Benz GLA เป็นรถที่ตอบโจทย์คนเมืองได้ดีทีเดียว