2023 MG ES (2023 เอ็มจี อีเอส) ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้ทุกรูปแบบ
MG ยืนยันว่า ES เป็นรถสเตชั่นแวกอนรุ่นใหม่ที่จะได้รับการจำหน่ายเคียงข้าง EP ไม่ได้มาทดแทนกันแต่อย่างใด ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มองหารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้งานได้เต็มที่
ด้วยแนวคิดการพัฒนา “COMFORTABLE เป็นทุกอย่าง เพื่อทุกโมเมนต์” รถสเตชั่นแวกอนไฟฟ้าคันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง เราไปชมกันเลย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ดีไซน์ภายนอกสะดุดตา
คนที่ไม่ค่อยประทับใจกับหน้าตาของ MG EP ที่ดูเรียบง่ายไปหน่อย อาจเปลี่ยนใจเมื่อได้ยลโฉม MG ES ซึ่งมีมิติความยาวตัวถังมากกว่าเล็กน้อยด้วย ขณะที่ชุดไฟส่องสว่างรอบคันเป็นแบบ LED ไฟท้าย Light Curtain Design มีเดย์ไลท์ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และชุดราวหลังคา
ห้องโดยสารใช้งานสะดวกสบาย
MG ระบุว่าห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP เทคโนโลยี Zero-G Seats รองรับสรีระของผู้นั่งได้ดีด้วยการกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุด 1,367 ลิตร
คอนโซลหน้าแบบ DOUBLE LAYER พร้อมพื้นที่ช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า โดยเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
ขุมพลังไฟฟ้าวิ่งได้ไกล
มอเตอร์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่ 8 Layer Hair Pin ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ขนาด 51 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกล 412 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีระบบคืนพลังงาน KERS ปรับได้ 3 ระดับ
ระบบความปลอดภัยเพียบ
ตามสไตล์รถยนต์ MG ที่จัดเต็มระบบความปลอดภัย ทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
นอกจากนี้ยังมี ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) และระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
ชาร์จง่ายใช้สบาย พร้อมจ่ายไฟได้
MG ES รองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่ติดตั้งแล้วกว่า 158 แห่ง
- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% - 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีที่ความเร็วสูงสุด 87 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาทีที่ 6.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh
- รองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });