สูตรสำเร็จของหนังบู๊ มักจะต้องมีฉากไล่ล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขับรถด้วยความเร็วสูง โดยเราเห็นพระเอกหนังพารถพุ่งไปผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่าย โดยมีรูปแบบการขับรถเหมือนกันในหลายเรื่อง จนผู้ชมเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขับขี่บู๊ล้างผลาญแบบนี้ในชีวิตจริง อาจจะทำให้รถพังจนวิ่งต่อไม่ได้กันเลยทีเดียว เรามาดูฉากในหนังเทียบกับความเป็นจริงกัน
ขับรถมือเดียว
เริ่มตั้งแต่การจับพวงมาลัยก่อน เรามักจะเห็นตัวละครในหนังขับรถมือเดียว ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาบนพวงมาลัย ดูแล้วเท่ในจอ แต่เมื่อมาใช้จริงแล้วจะทำให้เกิดความเมื่อยล้า และทำให้การบังคับเลี้ยวไม่ราบรื่น รวมถึงการหักหลบกะทันหัน ก็แย่กว่าการจับพวงมาลัยมาตรฐานแบบ 9 และ 3 นาฬิกา
การออกตัวล้อฟรี เป็นที่นิยมในภาพยนต์มาก เพราะมันทำให้ดูเหมือนว่า รถยนต์คันนั้นมีความแรงเกินจริง ทั้งที่จริงแล้ว การออกตัวแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้รถพุ่งเร็วขึ้น มิหนำซ้ำ ยังทำเวลาช้าลง แถมยังเปลืองดอกยางเพิ่มอีกด้วย การออกตัวที่ดี คือต้องทำให้ล้อยางถ่ายกำลังทั้งหมดลงพื้นให้ได้มากที่สุด โดยไม่เสียพลังไปกับการหมุนตะกุยฝุ่นขึ้นมา
รถเลี้ยวจนท้ายปัดเป๋บนถนน อาจจะดูเท่ในหนัง แต่ไม่ใช่ในการแข่งรถทางเรียบ ความจริงแล้ว การทำรถท้ายปัดมันคือการเลี้ยวที่ทำให้เข้าโค้งได้ช้ากว่าการเข้าแบบปกติ สาเหตุมาจากการใช้ความเร็วเกินขีดจำกัดของรถที่จะรักษาสมดุลย์ในโค้งได้ ดังนั้นรถจึงสไลด์ออก คนขับต้องเสียเวลามาดึงพวงมาลัยแก้อาการรถทีหลัง นอกจากทำเวลาได้ช้ากว่าแบบปกติแล้ว ยังทำร้ายดอกยางและบูชช่วงล่างให้สึกหรออีกหลายจุด
ฉากขับรถไล่ล่าในหนัง ไม่ว่าเป็นเรื่องใดก็ตาม ต่างก็ล้วนมีทีมงานเซ็ตรถให้มีระบบความปลอดภัยเยอะกว่าทั่วไป พร้อมทั้งมีการปิดถนนเพื่อถ่ายทำทั้งสิ้น ดังนั้นคนทั่วไปที่ใช้รถบ้านธรรมดา อย่าได้ลองบนถนนสาธารณะเปิดโล่ง เพราะเหตุไม่คาดฝัน มันจะมาตัดหน้าเราเสมอ อาจจะสูญทั้งรถ และเสียชีวิตได้ในเสี้ยววินาที
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}