เผยยอดขายรถยนต์ตลอดทั้งปี 2563 ตลาดโดยรวมหดตัว 21.4% ผลกระทบจากโควิด-19 แต่ Isuzu ผงาดเติบโตเหนือตลาด ด้าน Toyota คาดปีนี้ฟื้นตัวดีขึ้น
ยอดขายรถยนต์รวมทุกแบรนด์ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 104,089 คัน เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราเติบโตมากที่สุดที่ 16.7% ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งขยายตัวเล็กน้อยที่ 3.1%
Toyota ยังคงทำยอดขายรวมนำมาเป็นอันดับหนึ่งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยทำตัวเลขรวมทุกเซกเมนท์ได้ที่ 33,197 คัน ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ Isuzu ซึ่งเพิ่งเปิดตัว 2021 Isuzu MU-X (อีซูซู มิวเอ็กซ์) ใหม่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มียอดขายรวม 22,917 คัน และอันดับ 3 คือ Honda ทำยอดขาย 10,075 คัน
สถิติการขายรถยนต์ในประเทศปี 2563 | ยอดขายปี 2563 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2562 |
ปริมาณการขายรวม | 792,146 คัน | -21.4% |
รถยนต์นั่ง | 274,789 คัน | -31.0% |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 517,357 คัน | -15.1% |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 409,463 คัน | -16.8% |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 364,887 คัน | -15.5% |
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดขายรวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยปิดตัวเลขสะสมระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2563 อยู่ที่ 792,146 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 21.4%
บริษัทรถยนต์ที่ทำยอดขายรวมในปี 2563 ติดอันดับท็อป 3 ได้แก่ Toyota, Isuzu และ Honda แต่เป็น Isuzu บริษัทเดียวที่สามารถทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 7.7% ในปี 2563 ที่ผ่านมา ขณะที่ Toyota และ Honda มียอดขายลดลงถึง 26.5% และ 26.1% ตามลำดับ
เมื่อดูแบบแยกเซกเมนท์ ตลาดรถยนต์นั่งมียอดขายรวม 274,789 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 31.0% โดยผู้นำตลาดรถยนต์นั่งได้แก่ Honda มียอดขาย 77,419 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 28.2% ขณะที่อันดับ 2 คือ Toyota ยอดขาย 68,152 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.8% อันดับ 3 ตามมาห่าง ๆ คือ Nissan มียอดขาย 27,210 คัน ส่วนแบ่ง 9.9%
สำหรับตลาดรถกระบะและรถกระบะดัดแปลง (PPV) ค่าย Isuzu นำโด่งด้วยยอดขายรวม 168,467 คัน เพิ่มขึ้น 10.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และครองส่วนแบ่งตลาด 41.1% อันดับ 2 คือ Toyota มียอดขาย 149,635 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 21.9% และครองส่วนแบ่งตลาด 36.5% และอันดับ 3 คือ Mitsubishi ยอดขาย 35,046 คัน ลดลงจากปีก่อน 29.0% และมีส่วนแบ่งตลาด 8.6%
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายอีกครั้งสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เนื่องจากยังคงต้องเผชิญกับหลายปัจจัย จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การพัฒนาวัคซีนและการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก
“ปัจจัยลบทั้งหมด รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ กิจกรรมทางการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ จะมีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ดังนั้น เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แล้ว จึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2564 จะอยู่ที่ประมาณ 850,000 – 900,000 คัน เพิ่มขึ้น 7-14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” ยามาชิตะกล่าวเพิ่มเติม
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 | ยอดขาย ประมาณการปี 2564 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563 |
ปริมาณการขายรวม | 850,000 – 900,000 คัน | + 7-14% |
รถยนต์นั่ง | 290,000 – 318,000 คัน | + 5-15% |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 560,000 – 582,000 คัน | + 8-13% |
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}