วันที่ 2 มิถุนายน 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีประกาศการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เรื่องอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
กพช. มีมติเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 เห็นชอบเรื่องแนวทางการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า ของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของรถยนต์ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
โดยค่าพลังงานไฟฟ้า ทุกระดับแรงดัน 2.6369 (บาท/หน่วย) ค่าบริการทุกระดับแรงดัน 312.24 (บาท/เดือน)
ส่วนอัตราค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของการใช้ สำหรับแรงดัน 22 – 33 กิโลโวลท์ ช่วง Peak ค่าพลังงานไฟฟ้า 5.1135 (บาท/หน่วย) ช่วง Off Peak 2.6037 (บาท/หน่วย) ส่วนค่าบริการเท่ากัน 312.24 (บาท/เดือน)
แรงดันต่ำกว่า 22 กิโลโวลท์ ช่วง Peak ค่าพลังงานไฟฟ้า 5.7982 บาท/หน่วย ช่วง Off Peak 2.6369 บาท/หน่วย ส่วนค่าบริการเท่ากัน 46.16 บาท/เดือน
ช่วง Peak คือวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00น. – 22.00 น. ช่วง Off Peak วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 22.00 น. – 09.00 น. ,วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 00.00 น. – 24.00 น.และอัตราค่าไฟฟ้าข้างต้น ยังไม่รวมค่า Ft และภาษีมูลค่าเพิ่ม
อัตรานี้ประกาศใช้ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนถึงค่าไฟฟ้าประจำเดือนมีนาคม 2566 หรือจนกว่าจะมีประกาศโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่
การกินไฟของรถยนต์ไฟฟ้า มีการคำนวณาเป็น กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง (km/kWh) ซึ่งอาจจะนำมาเปรียบเทียบการกินน้ำมันของรถยนต์ได้ยาก แต่คำนวณคร่าว ๆ รถทั่วไปในการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ราวๆ 150-200 บาท และรถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 250-400 กิโลเมตร
ซึ่งหากคิดจากการใช้รถเครื่องยนต์สันดาปในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นดีเซลหรือเบนซิน ปกติระยะทาง 400 กิโลเมตร จะต้องใช้เงินเติมน้ำมันราว ๆ 500-800 บาท หมายความว่า EV จะประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้เกือบ 3 เท่าตัวเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความบ่อยในการชาร์จด้วย รวมถึงอัตราค่าไฟในปัจจุบันว่าอยุ่ที่เท่าไร และใช้ระยะไกลแค่ไหน
เพราะอย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีข้อจำกัดในด้านความสะดวก เว้นแต่ประเทศไทยจะมีการทำถนนที่สามารถชาร์จไฟไปได้ด้วย ซึ่งกน่าจะยาก
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}