ตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์-เอสยูวีขนาดเล็กที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาหลายปี และมีผู้ที่แสดงความสนใจเข้ามาร่วมแข่งขันในตลาดนี้กันอย่างต่อเนื่อง กำลังจะมีผู้เล่นหน้าใหม่ และเป็นการแตกไลน์สินค้าอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของ Hyundai (ฮุนได) ในรอบหลายปี
ก่อนหน้านี้ ฮุนได้เน้นการทำตลาดแต่รถตู้ เอ็มพีวี และมีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดบ้างประปรายทำให้ยอดจำหน่ายในประเทศไทยของพวกเขานั้นถือว่าไปได้เรื่อย ๆ แบบไม่หวืดหวา แต่ล่าสุด ดูเหมือนพวกเขาพร้อมที่จะเข้าแข่งขันในตลาดที่เติบโตสูงที่สุด
นั่นก็คือ การนำเข้า Hyundai Creta (ฮุนได เครต้า) รถยนต์ครอสโอเวอร์แบบ 5 ที่นั่ง ที่ประกอบในประเทศอินโดนีเซียเข้ามาทำตลาดกันในช่วงปลายไตรมาส 1 นี้ โดยแว่วว่าฮุนไดคาดหวังว่ารถยนต์รุ่นนี้จะทำตลาดได้อย่างดีมาก ทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตในประเทศไทย
แต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นหรือไม่ มาลองชมกัน...
แม้จะมีการเปิดตัว พร้อมเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซียไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ Hyundai Creta ก็ยังถือว่าเป็นสินค้าใหม่ในภูมิภาคนี้ เมื่อพวกเขายังไม่ได้ทำการส่งมอบรถคันดังกล่าวให้กับลูกค้าในประเทศผู้ผลิตเสียด้วยซ้ำ นี่คงจะเป็นสาเหตุว่าประเทศไทยเองก็ยังไม่พร้อมที่จะสัมผัสกับรถคันดังกล่าว และคาดว่าการเปิดตัวน่าจะมีขึ้นในงานมอเตอร์โชว์ช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
การออกแบบภายนอกของเครต้านั้นมาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบฮุนไดยุคใหม่ ที่มีการเล่นกรอบกระจังหน้าและชุดแต่งกันชนหน้าสีเงิน ขณะที่เส้นสายเน้นความบึกบึนบนตัวถังขนาดพอใช้งาน ตัวถังมีให้เลือกแบบสีทูโทน 3 คู่สีและสีเดียวกันทั้งคันรถอีก 7 สี ชุดไฟแบบแอลอีดี พร้อมไฟเดย์ไทม์ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วมีให้เลือก 2 ลาย โดยรวมความแล้วถือว่าเป็นรถที่ภายนอกโดดเด่นใช้ได้
แผงคอนโซลหน้ามีให้เลือก 2 สี ประกอบไปด้วยสีดำล้วน และสีน้ำตาลแบบทูโทน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังรูปร่างกระชับตัว หลังคาพาโนรามิกแบบเต็มห้องโดยสาร เบาะหลังแบบพับได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายออกแบบมาให้เรียบ ระบบอินโฟเทนเมนต์มาพร้อมการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ พร้อมระบบเครื่องเสียงจาก BOSE และที่ชาร์จแบบไร้สาย
น่าจะเป็นจุดที่ทุกคนสงสัยแน่นอนว่าเครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาจะเหมาะสมกับตลาดประเทศไทย ที่คู่แข่งหลายรายหนีไปเครื่องยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูงกันหมดแล้วหรือไม่ เพราะเครต้ามาพร้เอมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที มีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งแบบธรรมดา 6 จังหวะและซีวีทีตามความต้องการ
นอกเหนือจากโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว ฮุนได เครต้า ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลืออด้านความปลอดภัยมากมาย โดยเฉพาะในรุ่นท็อปที่มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยเตอนการชนด้านท้ายขณะถอยหลัง พร้อมกล้องมองหลังขณะถอยจอด ดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือพื้นฐานอย่างเอบีเอส อีบีดี ก็มีมาให้อย่างครบครัน
ราคาจำหน่ายของฮุนได เครต้า ในประเทศอินโดนีเซียนั้นอยู่ตั้งแต่ประมาณ 6.5-7.5 แสนบาท และคาดว่าเมื่อเข้ามาในประเทศไทย ราคาน่าจะสูงกว่านั้นเล็กน้อย โดยน่าจะเริ่มต้นที่ 7 แสนบาทกลาง ๆ ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ช่วงราคาใกล้เคียงกับครอสโอเวอร์ 5 ที่นั่งอย่าง MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) หรือ Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3)
นอกจากนี้ ยังสามารถแข่งขันกับมินิ เอ็มพีวี 7 ที่นั่งอย่าง Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) และ Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) ที่ทำตลาดอยู่ และมีข่าวลือของ Kia Seltos (เกีย เซลโทส) ที่อาจจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเช่นเดียวกันในรอบปีที่จะถึงนี้
แน่นอนว่า ลูกค้าเองก็ต้องรอเปรียบเทียบกันให้แน่ใจก่อนว่า สเปกของเครื่องยนต์ อุปกรณ์และของเล่นที่ให้มา เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายแล้ว จะยังพอมีพื้นที่เหลือให้ลูกค้าเปิดใจให้กับรถใหม่ในตลาดหรือไม่ หรือจะกลับไปซบแบรนด์เดิม ๆ ในตลาดที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งจากญี่ปุ่นและจีน
แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาตั้งเป้าเอาไว้ไม่น้อย งานนี้คงใส่กันไฟแลบแน่นอน!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}