Jeep (จี๊ป) แบรนด์รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดารถตัวลุย ที่มีประวัติศาสตร์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ได้ฤกษ์กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ Stellantis (สเตลแลนทิส) ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใหม่ในประเทศไทยรายล่าสุด
ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นเบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Peugeot (เปอโยต์) ค่ายรถยนต์จากฝรั่งเศสในเครือเดียวกัน และทางผู้บริหารยืนยันว่าการกลับเข้ามาในครั้งนี้ พวกเขาตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด
คาร์ล สไมลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ อินเดียและเอเชียแปซิฟิก สเตลแลนทิส เปิดเผยว่า การแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นการเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากเคยมีแบรนด์รถยนต์จี๊ปในประเทศไทยในอดีตมานานกว่า 25 ปี
"เรามองว่าภูมิภาคอาเซียนมีศักยภาพในการเติบโตของแบรนด์จี๊ป หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา เรามียอดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิกฟิกกว่า 4.7 หมื่นคัน โดยมีการเติบโตที่ดีในออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าตลาดอาเซียนจะเติบโตเช่นเดียวกัน"
ทั้งนี้ สเตลแลนทิสไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่ในอาเซียน โดยภายใต้แบรนด์รถยนต์ 14 แบรนด์ พวกเขาทำตลาดเปอโยต์และ Citroen (ซีตรอง) อยู่แล้ว และยังมีฐานการผลิตรถยนต์เปอโยต์อยู่แล้วในประเทศมาเลเซียและเวียดนาม ที่เปิดสายผลิตอยู่
ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่มีการเปิดตลาดอย่างเป็นทางการในปีนี้สำหรับภูมิภาคอาเซียน โดยในงานมอเตอร์โชว์ จี๊ปจะเปิดตัวรถทั้ง 3 รุ่น ประกาศราคาจำหน่ายและเริ่มรับจองรถกันในงาน ประกอบไปด้วย Jeep Wrangler Rubicon (จี๊ป แรงเลอร์ รูบิคอน) ทั้งเวอร์ชั่น 3 ประตูและ 5 ประตู ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร รวมไปถึง Jeep Wrangler Gladiator (จี๊ป แรงเลอร์กลาดิเอเตอร์) รถตัวลุยท้ายกระบะที่ยังไม่ได้เปิดเผยสเปคออกมา
สไมลีย์ระบุว่าเป้าหมายหลักของการทำตลาดจี๊ปในประเทศไทยก็คือการดูแลลูกค้าทั้งหมดอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารถยนต์เก่าที่ใช้รถมายาวนาน หรือรถยนต์ที่นำเข้ามาโดยผู้แทนอิสระ ทางบริษัทก็พร้อมดูแลด้านการรับประกันหรือการให้บริการหลังการขายแบบเป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้ จะต้องสร้างให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าการซื้อรถจากเบลฟอร์ดนั้น จะได้รับความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าอย่างไร โดยที่ไม่ไปกล่าวโทษลูกค้าที่ซื้อรถจากที่อื่น
ผู้บริหารของสเตลแลนทิสตอบคำถามเกี่ยวกับการทำตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มีอยู่หลายรุ่นในตลาดโลก ว่าโดยความเห็นส่วนตัวของเขานั้น หากจะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็ควรที่จะเดินหน้าทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไปเลย และไม่เน้นการทำตลาดรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งก็เป็นคำตอบที่น่าสนใจ เนื่องจากจี๊ปเองก็มีแผนที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมาทำตลาดในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ ทำให้ต้องติดตามโครงการนี้เช่นกัน
สำหรับเป้าหมายการทำตลาดในช่วงแรกจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม เนื่องจากเป็นการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็จะศึกษาแผนการผลิตรถยนต์จี๊ปในภูมิภาคนี้ โดยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นการผลิตที่โรงงานที่มีอยู่หรือการหาโรงงานอื่น ๆ ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของบริษัทในการเข้าสู่ตลาดนี้ ก็คือการสร้างความแติบโตให้กับแบรนด์ รวมถึงส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยหากคู่แข่งโตเท่าใด เป้าหมายของจี๊ปจะโตกว่านั้น 1 เท่าตัว
จตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ระบุว่าการเข้ามาทำตลาดรถยนต์จี๊ปจะช่วยเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถลุยหนักได้ โดยได้เตรียมแผนที่จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ 5 แห่งในปี 2565 โดยแห่งแรกจะเปิดที่ถนนสุขุมวิทในเดือนพฤษภาคมนี้ และจากนั้นจะขยายทั้งกทม.และต่างจังหวัดตามแผนงานที่วางเอาไว้ เพื่อรองรับการดูแลลูกค้าทั่วประเทศไทยที่อยากเป็นเจ้าของจี๊ป
ส่วนเป้าหมายยอดขายขออุบไว้ บอกว่าขอขายให้เยอะที่สุดก็เท่านั้น!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}