Aston Martin DBX นับเป็น SUV คันแรกในประวัติศาสตร์ค่ายรถสปอร์ตอังกฤษรายนี้ ที่ถูกวางแผนพัฒนาอย่างจริงจังมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว โดยใช้พื้นที่อดีตกระทรวงกลาโหมเก่าในประเทศเวลส์ มาสร้างโรงงานประกอบ ทุ่มเม็ดเงินเป็นหลักร้อยล้านปอนด์ ขณะที่รถสปอร์ตในค่ายก็ไม่ได้ทำกำไรได้มากนัก ทำให้สภาพคล่องน้อยลงเรื่อยๆ
ค่ายรถมาดสายลับนี้ ได้ออกมาแถลงผลการดำเนินกิจการ ตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นี้ขาดทุนไป 206 ล้านเหริยญ ซึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อหดหายจากโรคโควิด-19 รวมถึงการต้องปิดโรงงานในลอนดอน เพราะการควบคุมโรคอีก ยิ่งทำให้เป้าหมายที่คาดไว้พังทลายหมด
เนื่องจากโรงงานในเวลส์ไม่ปิด ดังนั้นจึงยังผลิตรถเอสยูวีได้เรื่อย จนสามารถส่งมอบรถแล้วตั้งแต่เดือนกรกฏาคม โดยยอดการผลิตถึง 80% ของสต็อคทั้งหมด จะถูกส่งไปขายประเทศจีน สาเหตุที่นิยมมาก เพราะว่าเอสยูวีรุ่นนี้มีทรงสวยแบบรถสปอร์ต ภายในกว้างจุได้ 5 คนสบายๆ พร้อมกับเครื่องแรง V8 ทวินเทอร์โบ ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 542 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที ทั้งแรงกว้าง และสวยนี่เอง จึงไปถูกใจเศรษฐีแผ่นดินใหญ่เข้าให้
หลังจากที่ผลิตรถสปอร์ตมาหลายรุ่นแต่ขายไม่ได้ดีนัก พอเห็นยอดจองเอสยูวีรุ่นใหม่แบบนี้ ทำให้ทางค่ายรถนี้ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้บริหารสูงสุด ไปรับตัวอดีตซีอีโอของ Mercedes-AMG เข้ามาร่วมงานกัน โดยปรับเปลี่ยนแนวทางการตลาดที่เน้นเข้าถึงผู้คนหลากหลายขึ้น เพียงเพราะเจ้ารถรุ่น DBX ตัวเดียว
Aston Martin DBX เปิดตัวครั้งแรกในไทย ที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2020 ด้วยราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท ไม่รวมล้อแต่งและอุปกรณ์เสริม นำเข้ามาจากอังกฤษเหมือนทั่วโลก ที่กำลังคลั่งกระแสเอสยูวี เพราะความอเนกประสงค์ ที่เข้ากับทุกฐานะชนชั้น พวกค่ายรถต่างๆ ที่ไม่เคยทำรถประเภทนี้ ก็ต้องกลับลำออกมาทำกันหมดทั้งวงการรถ ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดของบริษัท ก็หวังว่า Aston Martin DBX 2020 จะเป็นฮีโร่ที่กู้วิกฤติให้ค่ายรถนี้ได้ทันเวลา
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}