เกียร์อัตโนมัติในรถยนต์สมัยใหม่ ถือเป็นระบบหนึ่งที่มีความซับซ้อนและทำงานหนักมากที่สุดในรถยนต์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเป็นส่วนที่มีค่าซ่อมแพงที่สุดส่วนหนึ่ง
และสำหรับการซื้อรถยนต์มือสองแล้ว การดูเกียร์ให้เป็นก็ถือว่าสำคัญ เพราะเราจะสามารถดูอาการแปลก ๆ ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
จะมีอะไรบ้าง เราจะพาไปดู
วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูเกียร์รถยนต์ คือการเอาออกไปขับทดสอบ เพื่อดูอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
อาการนี้มักสังเกตุได้ง่าย มักเจอในรถเก่า คือเมื่อเข้าเกียร์เดินหน้า (D) หรือเกียร์ถอยหลัง (R) แล้วจะไม่ออกตัวทันที มีสาเหตุจากขาดการดูแล โดยเฉพาะในรถที่จอดไม่ค่อยได้วิ่ง ทำให้น้ำมันเกียร์มีปริมาณไม่ถูกต้อง
พบได้ในรถที่มีระยะการใช้งานมากกว่า 200,000 กิโลเมตรขึ้นไป อาจจะเป็นเพราะการสึกหรอภายใน เช่น ชุดผ้าคลัตช์, ชุดวาล์ว ควบคุมแรงดัน ซึ่งต้องยกเกียร์ออกมาผ่า หรือโอเวอร์ฮอลล์ (Overhaul) ไม่ก็ยกลูกใหม่ ซึ่งก็จะมีราคาขั้นหลายหมื่น
อาการนี้มักเกิดจากการออกรถในอุณหภูมิที่ยังเย็นอยู่ หรือสตาร์ทแล้วออกรถทันที รวมถึงเมื่อใช้งานไปแล้ว แต่อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ยังไม่ถูกต้อง อาจร้อนเกินกำหนด
การแก้ไขต้องเริ่มที่ตรวจวัดระดับน้ำมันเกียร์และคุณภาพ ตามด้วยเช็คระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์และเกียร์
อาการไม่มีคิกดาวน์ ถ้าเกิดขึ้นหลังจากการซ่อมเกียร์ (ผ่าเกียร์) มักเกิดจากการประกอบผิดพลาด ทำให้ชิ้นส่วน, แหวนหรือโอริงกันน้ำมันฉีกขาด ใส่กลับทาง ใส่ไม่ครบ
แต่ถ้าเกิดจากการใช้งานมานานแล้วยังไม่เคยผ่านการซ่อมมาก่อน อาจจะเกิดจากการรั่วซึมภายใน ก็ต้องผ่าเกียร์ เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย
เกิดจากการปรับตั้งสายเกียร์ไม่ถูกต้อง (ในรุ่นที่มีสายเกียร์) แก้ไขโดยการปรับตั้งใหม่ ในรุ่นที่ควบคุมระบบไฟฟ้า ให้เคลียร์เมมโมรีของสมองเกียร์ (Transmission Control Module) หรือตรวจสอบวาล์วควบคุมทางเดินน้ำมัน ว่ามีน้ำมันเกียร์มากหรือน้อยเกินไป รวมทั้งน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ แก้ไขด้วยการเติมหรือถ่ายส่วนที่เกินออกหรือเปลี่ยนใหม่
การอุดตันของทางเดินน้ำมันเกียร์ในสมองเกียร์ (Valve body) แก้ไขด้วยการถอดสมองเกียร์ออกมาล้างทำความสะอาด อาจมีการรั่วซึมภายในระบบเกียร์ของชุดเกียร์ต่าง ๆ เช่น แหวนกันน้ำมัน ลูกสูบวาล์ว (ลิ้นปิดเปิด ทั้งแบบกลไกหรือแบบไฟฟ้า)
อาการนี้เกิดขึ้นแม้ว่าจะวอร์มเครื่องก่อนออกรถแล้วก็ตาม แก้ไขโดยตรวจระดับน้ำมันเกียร์และคุณภาพของน้ำมันเกียร์ ถ้าน้ำมันเกียร์ถูกต้อง ก็อาจเกิดจากผ้าคลัตช์ในชุดเกียร์สึกหรอ แก้ไขโดยการยกเกียร์ผ่าเกียร์ เปลี่ยนชิ้นส่วน
อาการเหล่านี้ก็มักเป็นอาการที่เห็นได้ในรถมือสองจากการขับขี่ ท้ายที่สุดคือควรให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบให้จะเป็นวิธีทีดี เช่นการยกรถเพื่อดูด้านล่างว่ามีการรั่วซึมหรือไม่
รวมทั้งการหาโค้ดที่บ่งบอกอาการด้วยการเสียบ OBD ก็จะช่วยให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด
แต่หากลองนำออกไปขับและพบอาการเหล่านี้แล้วละก็ รถที่คุณเล็งไว้อาจจะยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีก็ได้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}