หลายประเทศกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่กำลังเข้ามา และหลายประเทศที่ร้อนตลอดปีอยู่แล้วอย่างบ้านเรา อากาศร้อนแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อรถ EV ได้ เว็บไซต์ electrek จึงเผย 5 วิธีที่ช่วยให้รถเหล่านี้สามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้นท่ามกลางความร้อนระอุ
1. จอดในที่ร่ม
ประการแรก คือ จอดรถในที่ร่ม การจอดรถ EV ของเราไว้ในร่มในวันที่อากาศร้อนจะช่วยลดอุณหภูมิของตัวรถและปกป้องแบตเตอรี่ไม่ให้ร้อนเกินไป
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
จากข้อมูลของ National Renewable Energy Laboratory ระบุว่า การจอดรถ EV ไว้กลางแดดโดยตรงอาจส่งผลให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาก แต่การจอดรถในร่มจะช่วยให้อุณหภูมิแบตเตอรี่นั้นน้อยกว่าหรือเท่ากับสภาพแวดล้อมได้
2. เหลือไฟในแบตเตอรี่ให้เพียงพออยู่เสมอ
ประการต่อมาคือควรชาร์จแบตเตอรี่ไว้ที่ 80% อยู่เสมอ เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงอาจทำให้แบตเตอรี่ EV เสื่อมเร็วขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่อย่างเพียงพอไว้เสมอจะทำให้เราสามารถใช้รถของเราได้ในเวลาที่ต้องการ
การชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ระว่าง 20-80% อยู่เสมอจะช่วยยืดอายุการของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น การชาร์จให้มากกว่า 80% บ่อย ๆ อาจทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น ดังนั้น เราควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสมกับการเดินทาง
3. ใช้ระบบปรับอากาศเท่าที่จำเป็น
อีกประการหนึ่งคือ ใช้ระบบปรับอากาศเท่าที่จำเป็น การใช้งานระบบปรับอากาศมากเกินไปอาจทำให้ระยะทางขับขี่ EV ของเราลดลง และเราควรปรับอากาศห้องโดยสารล่วงหน้าก่อนเข้าไปในรถ โดยเฉพาะตอนกำลังชาร์จ เนื่องจากจะช่วยลดภาระของระบบปรับอากาศลง หากห้องโดยสารมีอุณหภูมิตามต้องการแล้วให้เบาแอร์ลงได้เลย
อ่านเพิ่มเติม: Toyota ตกอันดับ Brand Loyalty หลังลูกค้าเลือก Tesla มากกว่า
4. ตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ
ต่อมาคือการคอยตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ เนื่องจากความร้อนสูงนั้นทำให้ยางเกิดการขยายตัว ส่งผลให้ระยะทางขับขี่ลดลง ดังนั้นเราจึงควรที่จะตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น
เราสามารถหาแรงดันลมยางที่เหมาะสมกับรถของเราได้ในคู่มือของรถ บริเวณประตูฝั่งด้านคนขับ รวมถึงบริเวณมาตรวัดของรถหากตัวรถมีระบบวัดแรงดันลมยางอยู่แล้ว การที่มีลมยางที่เหมาะสมจะช่วยให้รถประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
5. เลี่ยงการชาร์จเร็วขณะอากาศร้อนจัด
ประการสุดท้ายคือ หลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วแบบ DC ขณะอากาศร้อนจัด เนื่องจากอากาศร้อนจะส่งผลต่อเวลาในการชาร์จ ดังนั้นหากเป็นไปได้ให้เลือกเวลาที่ไม่ร้อนมากสำหรับการชาร์จ DC และในช่วงเวลาที่คนใช้มาก ความเร็วในการชาร์จของสถานีอาจลดลงเพื่อจัดการกับความต้องการชาร์จที่มีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ระบบไม่ร้อนจนเกินไปนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม: ชาวอาเซียนสงสัย แบตเตอรี่ลิเธียมทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ไหม แบตจะหมดไวหรือเปล่า?
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });