เผยโฉม Aston Martin DB12 พร้อมเครื่องยนต์ V8 จาก AMG ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.

Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) เผยโฉมรถสปอร์ตรุ่นล่าสุด Aston Martin DB12 ซึ่งเป็นการประกาศถึงยุคสมัยใหม่ของค่าย โดยจะมอบพละกำลัง การขับขี่ที่ดี รวมถึงความสะดวกสบายภายในที่มากยิ่งขึ้น

• เครื่อง V8 ที่แรงเท่า V12
• โหมดการขับขี่ที่ได้ทั้งสปอร์ตและสบาย
• ซอฟท์แวร์ภายในพัฒนาโดย Aston Martin เอง
• ดีไซน์เอกลักษณ์แต่ถูกปรับปรุงใหม่

“รถตระกูล DB ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

Aston Martin อธิบายถึงความภูมิใจของรถคันนี้ว่าเป็นรถซุปเปอร์ทัวร์เรอร์คันแรกของโลกและเป็น “รถตระกูล DB ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด” ในประวัติศาสตร์ของค่าย 

แต่สิ่งที่แฟน ๆ ของแอสตัน มาร์ตินสงสัยคือจะมีตัวเลือกของเครื่องยนต์ V12 หรือไม่ ซึ่งยังไม่มีการกล่าวถึงในการเปิดตัวครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตรที่มาจาก Mercedes-AMG ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้รถคันนี้แรงกว่ารุ่นก่อนอย่าง DB11 ที่ใช้เครื่อง V12 เสียอีก

เครื่อง V8 ที่แรงเท่า V12

สำหรับเครื่องยนต์บล็อกใหม่นั้นเป็นเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลังสูงสุด 671 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตรที่ 2,750 - 6,000 รอบต่อนาที ทำให้เครื่องยนต์ตัวนี้มีพละกำลังมากกว่าเครื่อง V8 ตัวเก่าถึง 30% และยังแรงกว่าเครื่องยนต์ V12 ขนาด 5.2 ลิตรของ DB11 AMR ด้วยม้ามากกว่า 41 ตัว

ทำให้รถคันนี้สามารถทะยานจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 325 กม./ชม. 

ปรับปรุงอะไรบ้าง

Aston Martin กล่าวว่ามีการปรับปรุงสำคัญหลายครั้งสำหรับเครื่องยนต์ V8 เพื่อให้มีกำลังความสามารถที่มากกว่าเดิมอีกด้วย 

โดยเริ่มตั้งแต่การปรับปรุงแคมของเครื่องยนต์ อัตราส่วนกำลังอัดที่เหมาะสม เทอร์โบชาร์จที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้น และระบบหล่อเย็นที่ดีขึ้นซึ่งเกิดจากการออกแบบระบบระบายความร้อนใหม่ทั้งหมดที่มีตัวระบายความร้อนเสริมสองตัวที่ด้านบนของหม้อน้ำหลักที่มีอยู่

นอกจากนี้ DB12 ยังเป็นรถตระกูล DB รุ่นแรกที่มีเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากการล็อคสุดจนเปิดสุดได้ในเวลาหลักมิลลิวินาที โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

โหมดการขับขี่ที่ได้ทั้งสปอร์ตและสบาย

ด้วยพละกำลังอันมหาศาลนั้นต้องอาศัยช่วงล่างที่สามารถรับมือกับมันได้ ดังนั้น Aston Martin จึงแนะนำแดมเปอร์แบบปรับอัตโนมัติแบบใหม่และมีเหล็กกันโคลงที่แน่นขึ้น 

รถคันนี้มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ GT, Sport, และ Sport+ ที่จะให้การตอบสนองและความแข็งที่เพิ่มขึ้น 

สำหรับโหมดที่สบายที่สุดอย่าง GT นั้นทางแอสตัน มาร์ตินกล่าวว่า คุณภาพการขับขี่นั้นจะสบายและมอบ “การเดินทางที่ยอดเยี่ยมแต่ยังปราดเปรียว”

ดีไซน์เอกลักษณ์แต่ถูกปรับปรุงใหม่

สำหรับด้านการออกแบบพบว่า DB12 มาพร้อมดีไซน์ที่หลายคนคุ้นเคยแต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์และไฟหน้าแบบ LED เหนือกระจังหน้าขึ้นไปจะเป็นพื้นที่สำหรับตรา Aston Martin แบบใหม่ ขณะที่ใต้กระจังหน้าจะเป็นสปลิตเตอร์ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด

DB12 มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ที่ซ่อนจานเบรคที่ทำจากเหล็กหล่อขนาด 400 มม. ที่ด้านหน้า และขนาด 360 มม. ที่ด้านหลัง เมื่อเปิดประตูออกมาจะเห็นว่าเป็นประตูแบบไร้กรอบพร้อมมือจับประตูที่แนบไปกับตัวรถเพื่อความโฉบเฉี่ยวและลดการต้านอากาศ

ซอฟท์แวร์ภายในพัฒนาโดย Aston Martin เอง

อีกหนึ่งจุดเด่นของรถคันนี้คือภายในของรถ นอกจากที่รถคันนี้จะมีคอนโซลที่ออกแบบโดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางและมีการตกแต่งด้วยหนัง Alcantara แล้ว DB12 ยังมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่ทั้งหมดที่ออกแบบและพัฒนาโดย Aston Martin ด้วยตัวเอง 

ระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่นี้จะสามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบนำทางใหม่ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในมือถือ รวมถึงสามารถอัพเดทผ่านระบบ over-the-air ได้

Aston Martin จะเริ่มส่งมอบ DB12 ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยราคาของรถคันนี้คาดว่าจะเปิดเผยราคาในช่วงใกล้วันที่วางจำหน่าย

อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว 2023 Aston Martin V12 Vantage Roadster พร้อมม้า 690 ตัว อาจเป็น 12 สูบรุ่นสุดท้าย