เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา Denza (เดนซ่า) หนึ่งในแบรนด์ย่อยของ BYD (บีวายดี) เปิดตัว Denza N8 เอสยูวีรุ่นใหม่ในจีน ซึ่งถือเป็นรถตระกูล N รุ่นที่สองถัดจาก N7 โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 1.56 ล้านบาทเท่านั้น
Denza N8 ถูกออกแบบด้วยภาษาดีไซน์แบบ “π-Motion” ของ BYD ซึ่งจะมาแทนเอสยูวีรุ่นก่อนอย่าง Denza X
สำหรับ N8 นั้นถือว่าเป็นเอสยูวีขนาดกลาง โดยมีความยาว 4,949 มม. กว้าง 1,950 มม. สูง 1,725 มม. มีระยะฐานล้อ 2,830 มม.
รถคันนี้มีดีไซน์ที่ฉีกออกไปจากรุ่นก่อน โดยจะเพิ่มความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นที่บริเวณไฟเดย์ไลท์รูปเขี้ยวทั้งสองข้างที่โดดเด่นสะดุดตา ด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ไฟท้ายตามแนวความกว้างรถตามสมัยนิยม และมีแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ
สำหรับระบบความปลอดภัยของ Denza N8 มีมาให้อย่างครบครัน มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ 2+ ซึ่งประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าและด้านหลังที่ตรวจจับโดยเซนเซอร์ทั้ง 24 จุดรอบคัน ซึ่งประกอบด้วย เซนเซอร์ระดับมิลลิเมตร 5 ตัว, กล้อง 6 ตัว และเซนเซอร์อัลตราโซนิค 12 ตัว
ระบบส่งกำลังของ Denza N8 มาพร้อมขุมพลังไฮบริด DM hybrid จาก BYD ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรเทอร์โบทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าและหลัง โดยส่วนของเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 231 นิวตันเมตร รวมกับกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 482 แรงม้า
ด้วยการร่วมมือกันของทั้งหมดนี้ทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 190 กม./ชม. ให้อัตราสิ้นเปลือง 15.5 กม./ลิตรในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนอัตราการใช้พลังงานของแบตเตอรี่อยู่ที่ 18.2 kWh/100 กม.
รถคันนี้ยังมาพร้อมระบบ Cloud Chariot-C จาก BYD ที่ช่วยควบคุมตัวรถอย่างชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยให้มีความสามารถบนทางออฟโรดได้มากขึ้น
นอกจากนี้ Denza N8 ยังใช้แบตเตอรี่เบลดจาก BYD ขนาด 45.8 kWh โดยโหมดอีวีล้วนสามารถขับได้สูงสุด 216 กม. ในมาตรฐาน NEDC เมื่อรวมกับเครื่องยนต์แล้วสามารถไปได้ไกลสูงสุดถึง 1,030 กม. เลยทีเดียว
ตัวรถยังสามารถชาร์จไฟฟ้าเร็วได้สูงสุดถึง 90 kW และยังรองรับระบบ V2L ซึ่งจ่ายไฟได้กำลังสูงสุดถึง 6 kW ซึ่งเพียงพอกับอุปกร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ภายในบ้าน
ภายในห้องโดยสารของ Denza N8 มาพร้อมจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสตรงกลางขนาด 15.6 นิ้วแบบ 2.5K, พวงมาลัยสองก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น, มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และจอ head-up display ขนาด 12 นิ้ว ตัวรถยังรองรับระบบ Denza Link 5G และระบบเสียงจาก Dynaudio
Denza N8 มาพร้อมตัวเลือกการจัดวางที่นั่งที่หลากหลายทั้ง 5, 6 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ ผู้โดยสารแถวหลังยังสามารถกางโต๊ะออกมาได้ มีหน้าจอสัมผัสควบคุมระบบปรับอากาศให้เฉพาะแถวหลัง และมีซันรูฟพร้อมม่านบังแดดมาให้เลย
สำหรับ Denza N8 ถือว่ามีความน่าสนใจ หากมีโอกาสจำหน่ายในประเทศไทย คงสู้ PPV ได้อย่างสูสี
อ่านเพิ่มเติม: เปิดตัว BYD Denza N7 เอสยูวีไฟฟ้าสุดหรู พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ เริ่ม 1.45 ล้าน วิ่งไกล 702 กม.
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}