ผู้บริหารค่ายรถจีนเริ่มกังวล หลังค่ายรถเยอรมนีเดินหน้ารถอีวีเต็มสูบ

ผู้บริหารระดับสูงของ Xpeng ค่ายรถสตาร์ทอัพจากประเทศจีนเผยว่าค่ายรถจากยุโรป โดยเฉพาะจากเยอรมนีพร้อมแล้วที่จะแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

ไบรอัน คู ประธานกรรมการ Xpeng ให้สัมภาษณ์ภายในงานมิวนิค มอเตอร์โชว์ว่า ค่ายรถหลายรายจากเยอรมนีได้แสดง “ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า” ที่จะเปลี่ยนแปลง และรับมือกับความท้าทายในตลาดรถยนต์

ความเห็นของคู เกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยคำให้สัมภาษณ์ของฮิลเดการ์ด มุลเลอร์ ประธานกรรมการสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีที่เตือนว่า เยอรมนีกำลังสูญเสียขีดความสามารถทางการแข่งขัน และอยู่ในจุดที่ต้องมีการลงทุนอย่างเร่งด่วน

“พวกเขา (ค่ายรถเยอรมัน) กำลังรู้สึกอย่างชัดเจนว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ผมคิดว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นอย่างมากในการไล่ตามความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากต้องพบกับความขมขื่น” คู กล่าวเพิ่มเติม

พายุจีนถล่มตะวันตก

ปัจจุบัน 8% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเป็นของแบรนด์จีน เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปีที่แล้ว และ 4% ในปี 2021 ประเทศจีนยังเป็นผู้นำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี

คู ยอมรับว่าค่ายรถหน้าใหม่อย่าง Xpeng ยังต้องยกระดับตนเองให้ไปถึงมาตรฐานเยอรมัน โดยเฉพาะในด้านแบรนด์และการลงทุนเพื่ออยู่รอดในตลาดระยะยาว

ค่ายรถจีนหลายรายกำลังแสวงหาผลกำไรกันอย่างคึกคัก ทำให้แบรนด์อย่าง Xpeng, BYD และ Leapmotor ต้องลุยตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม

“บริษัทจากจีนพัดถล่มเข้าไปในตลาดต่างประเทศ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทำให้เจ้าถิ่นเกิดความรู้สึกกังวลอย่างมาก” คู กล่าว

เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คู ยืนยันว่า Xpeng วางแผนจะทำตลาดยุโรปเพิ่มเติม อย่างเยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศสในปี 2024

ขณะที่โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่าการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าควรเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลสำหรับค่ายรถเยอรมัน

Xpeng ยังเพิ่งบรรลุข้อตกลงกับ Volkswagen เพื่อผนึกกำลังกันผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน 2 รุ่นสำหรับตลาดเมืองจีน

“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เติบโตเต็มที่ และทุกฝ่ายก็กำลังแสวงหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม” คู กล่าว พร้อมกับยอมรับว่าการเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นได้นั้นต้องทะลายมุมมองด้านลบเกี่ยวกับคุณภาพการผลิตของจีน ซึ่งการจับมือกับค่ายรถเก่าแก่ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างเทคโนโลยีและแบรนด์ให้เติบโต