Aston Martin DB12 (แอสตัน มาร์ติน ดีบี12) เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมการกำหนดนิยามใหม่ว่าเป็น “ซูเปอร์ทัวร์เรอร์รายแรกของโลก (The World’s First Super Tourer)” ซึ่งเป็นการยกระดับรถประเภท GT (Grand Tourer) ขึ้นมาอีกขั้น
การเปิดตัว DB12 เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของยนตรกรรมสายพันธุ์ DB มาดูกันว่า รถตระกูล DB รุ่นล่าสุดคันนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจกว่าเดิมอย่างไรบ้าง
ดีไซน์ใหม่ ดุดันมากขึ้น
Aston Martin DB12 มาพร้อมตัวถังดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าแบบซี่เดี่ยว ชุบโครเมียม มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน 56% โลโก้สัญลักษณ์ใหญ่ขึ้น กันชนหน้าแบบใหม่ พร้อมแผ่นรีดอากาศด้านหน้า ไฟหน้า LED แบบใหม่ พร้อมไฟเดย์ไลท์ 6-Block Pattern และช่องระบายอากาศบนฝากระโปรง
ด้านข้างเราจะเห็นกระจกข้างแบบไร้กรอบ มือจับประตูแบบใหม่ Presenting Door Handles ตัวรถมีความลู่ลมมาขึ้นด้วยระบบแอโร่ไดนามิกส์ ‘Aeroblade’ พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบอัตโนมัติ
ขุมพลัง V8 แต่แรงกว่า V12 เดิม
DB12 กล่าวว่ามีขุมพลังที่แรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 800 นิวตันเมตร ที่ 2,750 - 6,000 รอบ/นาที วางแบบ Front Mid Engine จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.
ซึ่งทาง Aston Martin กล่าวว่าเครื่องยนต์ของ DB12 จะมีแรงม้าเพิ่มขึ้น 33% แรงบิดเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม
ตัวรถมาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 5 รูปแบบ ได้แก่ Wet, Individual, GT (พื้นฐาน), Sport และ Sport+ โดยมีความเร้าใจเพิ่มขึ้นด้วยระบบออกตัว (Launch Control) และระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) ที่ปรับระดับได้ 3 แบบ ได้แก่ ON, Track และ OFF
DB12 ยังมาพร้อมช่วงล่างที่มีโช๊คอัพ Billstein DTX ปรับความหนืดอัตโนมัติ ซึ่งมีความยืดหยุ่นกว่ารุ่นเดิม 500% คาลิปเปอร์เบรคหน้า 6 พ็อต หลัง 4 พ็อต สามารถเพิ่มออพชั่นจานคาร์บอนเซรามิคหน้าขนาด 410 และหลัง 360 มม. ซึ่งลดน้ำหนักใต้สปริงลงไปถึง 27 กก.
รถคันนี้ยังมาพร้อมล้อฟอร์จ Y-Spoke ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Pilot Sport S 5 ที่ผลิตสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยมีขนาดยางด้านหน้า 275/35 ZR21 และด้านหลังขนาด 325/30 ZR21
นอกจากนี้ DB12 ยังเป็นรถตระกูล DB รุ่นแรกที่มีเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-diff) ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากการล็อคสุดจนเปิดสุดได้ในเวลาหลักมิลลิวินาทีเลยทีเดียว
ภายในแบบอัลตราลักชัวรี่เช่นเคย แต่ทันสมัยยิ่งขึ้น
ห้องโดยสารของ Aston Martin DB12 ออกแบบด้วยแนวคิดเน้นไปยังผู้ขับขี่ ผสานเทคโนโลยีล่าสุดเข้ากับงานฝีมือและวัสดุเกรดสูง มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์แบบใหม่ที่พัฒนาโดยแอสตัน มาร์ตินเอง
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้วที่ปรับแต่งการแสดงผลได้หลายรูปแบบ หน้าจอกลางขนาด 10.25 นิ้ว ที่ติดตั้งเน้นความสะดวกของผู้ขับขี่
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่หุ้มหนัง ตัดเย็บด้วยมือ ผสมผสานความหรูหรา ประณีต เข้ากับความล้ำสมัยของระบบอินโฟเทนเมนท์ได้อย่างลงตัว ปุ่มสตาร์ทแบบใหม่ ตัวปรับโหมดการขับแบบหมุนและสวิตช์ปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลางที่ใช้งานได้สะดวก
นอกจากนี้ เมื่อสั่งจองรถคันนี้ เจ้าของรถยังสามารถเลือกการตกแต่งได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เหมาะกับบุคลิกของผู้ครอบครองได้อีกด้วย
Aston Martin DB12 จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคาเริ่มต้น 21,900,000 บาท มาพร้อมการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต 5 ปี ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
อ่านเพิ่มเติม: เผยโฉม Aston Martin DB12 พร้อมเครื่องยนต์ V8 จาก AMG ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.