- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไปถึงจุดสูงสุด
- สิ่งต่อไปอาจเป็น แบตเตอรี่โซลิดสเตท
- แบตเตอรี่เจนล่าสุดของ BMW อาจเป็นจุดสูงสุดของแบตเตอรี่ลิเธียม
- สัญญาณว่าไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
- ต้องใช้เวลาเปลี่ยนแปลงอีกนาน
BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) สัญญาว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นถัดไปจะสามารถวิ่งได้เกือบ 1,000 กม.ต่อชาร์จ สามารถชาร์จได้เร็วขึ้น 30% และมีต้นทุนการผลิตที่ถูกลงซึ่งส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนลดลงไปด้วย โดยยังอยู่ภายใต้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในตอนนี้
แต่วิศวกรแบตเตอรี่คนหนึ่งของ BMW คิดว่าช่วงเวลาของเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีไปเรื่อย ๆ และหากไม่มีอะไรที่เป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” อย่างเช่นซิลิกอน เขาคิดว่าเทคโนโลยีกำลังเข้าถึงขีดจำกัดที่สามารถทำได้ในปัจจุบัน แต่เขาก็ยังเชื่อว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะยังคงเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมในวงกว้างต่อไปอีกหลายปี
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไปถึงจุดสูงสุด
Simon Erhard วิศวกรหัวหน้าฝ่ายพลังงาน ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ BMW เจนที่ 6 ที่กำลังจะมาถึง กล่าวว่า “หากมองจากมุมของความหนาแน่นของพลังงาน ผมจะบอกว่าเรากำลังเผชิญกับคุณสมบัติทางเคมีที่เหมาะสมที่สุดแล้วในการใช้งานเชิงอุตสาหกรรม” สำหรับตลาดขนาดใหญ่
“ผมคิดว่ามันถึงจุดสูงสุดแล้ว” เขาเสริม
สิ่งต่อไปอาจเป็น แบตเตอรี่โซลิดสเตท
Erhard เชื่อว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่สิ่งต่อไป” ในการพัฒนาแบตเตอรี่อาจจะเป็นอย่างเช่น แบตเตอรี่โซลิดสเตท เขากล่าวว่าศูนย์ Cell Manufacturing Competence Center ของ BMW ที่เพิ่งเปิดในมิวนิค กำลังทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ โดยทำงานร่วมกับนักวิชาการที่มีความสามารถระดับแนวหน้าในยุโรปเพื่อสร้างเครือข่ายที่คล้าย ๆ กับซิลิกอนวัลเลย์เล็ก ๆ อยู่รอบ ๆ พื้นที่ที่พัฒนาแบตเตอรี่
นอกจากนี้ BMW และ Ford ยังเป็นผู้ลงทุนหลักในบริษัท Solid Power บริษัทในโคโลราโดซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทแรกที่ทำให้เทคโนโลยีโซลิดสเตทสามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งหมายความว่าแบตเตอรี่โซลิดสเตทก้อนแรกจากสายการผลิตอาจจะอยู่ใน Ford หรือ BMW
และยังมีผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้อยู่เช่นกัน ตัวอย่างเช่น General Motors, Honda, Volkswagen, Hyundai, และ Toyota
อ่านเพิ่มเติม : BMW จับมือ Ford ลงทุนทำแบต Solid State เสร็จปีหน้า แต่ขอเวลาทดสอบ 9 ปี
แบตเตอรี่เจนล่าสุดอาจเป็นจุดสูงสุดของแบตเตอรี่ลิเธียม
BMW กำลังที่จะผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยจะมาพร้อมไลน์อัพรถยนต์รุ่นใหม่ในแพลทฟอร์มของรถอีวีโดยเฉพาะที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่เจเนอเรชั่นที่ 6 ที่มีเซลล์แบบทรงกระบอกและผลิตจากโรงงานหลายแห่งทั่วโลก
แต่แบตเตอรี่เจเนอเรชั่น 6 นี้จะยังเป็นลิเธียมไอออน และ BMW จะยังไม่เปลี่ยนรูปแบบแบตเตอรี่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
แบตเตอรี่โซลิดสเตทเป็นเทคโนโลยีที่ถูกสัญญาไว้อย่างยาวนานแต่ยังพัฒนาได้ไม่สำเร้จเสียที โดยเทคโนโลยีจะทำให้ความหนาแน่นพลังงานมากกว่าและมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน หมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีน้ำหนักน้อยลงและแบตเตอรี่จะใช้พื้นที่น้อยลงอีกด้วย
กล่าวคือ แบตเตอรี่โซลิดสเตทคือการเปลี่ยนตัวนำภายในแบตเตอรี่ที่เป็นของเหลวเป็นของแข็ง ประโยชน์ที่ได้รับจากตรงนี้คือ การชาร์จที่เร็วขึ้น ควมทนทานที่มากขึ้น ไปจนถึงมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากแบตเตอรี่โซลิดสเตทสามารถติดไฟได้ยากกว่าลิเธียมไอออนมาก นอกจากนี้ขั้วของแบตเตอรี่แบบใหม่จะใช้เหล็กลิเธียมแทนคาร์บอนกราไฟต์ที่มีน้ำหนักมากกว่า
สัญญาณว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไปถึงจุดสูงสุด
Erhard กล่าวว่าความล่าช้าในอุตสาหกรรมบางส่วนเกิดจากความจริงที่ว่า ลิเธียมไอออนนั้นยังไม่ไปถึงศักยภาพสูงสุด แม้ว่าเขาและทีมจะเชื่อว่าแบตเตอรี่เจนที่ 6 ของเขาจะเป็นแบบนั้น ซึ่งในตอนนี้ การวิจัยและพัฒนาส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับปรุงและปรับขนาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้สมบูรณ์แบบแทบทั้งสิ้น
เขายังกล่าวว่า ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงที่วิศวกรสามารถทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสร้างระยะทางขับขี่ที่เพิ่มขึ้น สูตรทางเคมีที่เปลี่ยนแปลงไป และมีการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอยู่เสมอ แต่การปรับปรุงในเรื่องดังกล่าวที่ว่ามานั้นทำได้ยากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถอย่าง BMW ต้องการให้ยอดขายอีวีมีตัวเลขที่ดีและยังทำตามเป้าหมายลดคาร์บอนไปได้ด้วย
“หากคุณต้องการให้ระบบที่มีความสมดุลสามารถออกสู่ตลาดในวงกว้าง ผมคิดว่าตอนนี้มันถึงจุดสูงสุดแล้ว”
ยังไม่เปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่โซลิดสเตทเร็ว ๆ นี้ เพราะต้องใช้เวลา
Erhard ยังกล่าวอีกว่า สำหรับ BMW ตอนนี้ และแพลทฟอร์มอีวีใหม่ “Neue Klasse” จะยังเน้นในการใช้งานกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นหลัก แต่เขาจินตนาการว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษหน้า
Erhard กล่าวว่า “คิดว่าอีกสัก 10 ปี รถทุกคันจะใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตท...แต่ทุกวันนี้ ในอีกสามถึงห้าถึงแปดปีข้างหน้า เราจะยังพึ่งพาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอยู่ จากนั้น ในมุมของเรา สมมติว่าตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป เราจะมีการดำเนินงานที่เป็นแบตเตอรี่โซลิดสเตททั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม การทดสอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่นี้ยังไม่แน่ชัดในตอนนี้ โดย Erhard กล่าวว่า “เพื่อให้โซลิดสเตทสามารถใช้ในอุตสาหกรรมและพร้อมสำหรับการใช้งานในตลาดขนาดใหญ่นั้นต้องใช้เวลา”
อ่านเพิ่มเติม : ฟังเหตุผล ทำไม BMW ตั้งเป้าหมาย รถอีวีของค่ายไม่มีทางวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม./ชาร์จ