สรุปสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ EV ในปี 2567 นี้พบว่าจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งค่ารถที่ซื้อราคาแพงขึ้น หากใครใช้มาก่อนหน้าแล้วก็มีภาระค่าไฟเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ค่าประกันแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่โดยเฉพาะ
สรุปสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ EV ในปี 2567 นี้พบว่าจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งค่ารถที่ซื้อราคาแพงขึ้น หากใครใช้มาก่อนหน้าแล้วก็มีภาระค่าไฟเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ค่าประกันแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่โดยเฉพาะ
มาตรการอุดหนุน EV 3.5 แผนใหม่ในปี 2567 นี้จะมีเงินอุดหนุนลดน้อยลง จากเดิม 2 ปีแรกให้รถที่มีแบตขนาด 10-30 kWh รับเงินอุดหนุนคันละ 70,000 บาท และรถที่มีขนาดแบตเกิน 30 kWh ขึ้นไป รับเงินอุดหนุน 150,0000 บาทถูกเปลี่ยนใหม่หลักเกณฑ์ลดเงินลงดังนี้
รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท แบตต่ำกว่า 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุนคันละ 20,000-50,000 บาท
รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท แบตมากกว่า 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุนคันละ 50,000-100,000 บาท
ถึงแม้จะได้เงินอุดหนุนลดดลงหลายหมื่นบาท แต่กต้องูโปรโมชั่นของแต่ละค่ายประกอบการตัดสินใจด้วยครับ
ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่นี้ จะแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่จากตัวรถยนต์ กรณีที่ EV ได้รับความเสียหายจนต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทั้งชุด บริษัทประกันจะชดใช้ค่าแบตใหม่ด้วยสัดส่วนราคาตามอายุการใช้งาน คิดเป็นเปอเซ็นต์ของราคาแบตจากผู้ผลิตรถ และจะนำแบตเก่าที่เคลมไปขายเป็นซาก นำเงินมาให้เจ้าของรถในสัดส่วนตามอายุเช่นกัน
อายุไม่เกิน 1 ปี ประกันชดใช้ค่าแบต 100%
อายุไม่เกิน 2 ปี ประกันชดใช้ค่าแบต 90%
อายุไม่เกิน 3 ปี ประกันชดใช้ค่าแบต 80%
อายุไม่เกิน 4 ปี ประกันชดใช้ค่าแบต 70%
อายุไม่เกิน 5 ปี ประกันชดใช้ค่าแบต 60%
อายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ประกันชดใช้ค่าแบต 50%
ตัวอย่างเช่น นาย A ขับรถยนต์ไฟฟ้าอายุไม่เกิน 2 ปีแล้วเกิดอุบัติเหตุ มีแบตเตอรี่เสียหายราคา 600,000 บาท ประกันชดใช้ค่าแบต 90% ตามเกณฑ์ข้างต้น คิดเป็นเงิน 540,000 บาท ส่วนต่างอีก 10% มูลค่า 60,000 บาทให้เจ้าของเป็นคนจ่าย
จากนั้นบริษัทประกันก็เอาแบตเดิมไปขายซาก สมมุติว่าได้ราคา 200,000 บาท ก็จะนำมาคืน 10% ตามสัดส่วนข้างต้นให้เจ้าของรถ คิดเป็นเงิน 20,000 บาทจากราคาซาก สรุปว่าเจ้าของรถนั้นก็ต้องออกเงินส่วนต่าง 10% ของราคาแบตใหม่ และจะได้เงินคืน 10% ของราคาขายซากแบต เป็นการชดเชยเล็กน้อย
การประกันภัยภาคสมัครใจนี้ ยังสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แลกกับความสบายใจนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ค่าแบต Tesla ราคา 757,000 บาท พังไม่รับเคลม เพราะเจ้าของขับรถกลางสายฝน จนน้ำเข้าแบต