ปกติเราจะมีภาพจำว่ารถยนต์ Lamborghini (ลัมบอร์กินี่) จะต้องเป็นรถที่เตี้ยเกือบติดถนน ทำให้ขับลุยทางฝุ่นหรือทาง

แต่ใน Huracan Sterrato รุ่นใหม่ล่าสุด พวกเขาได้เปลี่ยนรถให้กลายเป็นกระทิงยกสูง ที่สามารถขบได้สนุกทั้งบนถนนธรรมดาและทางฝุ่น

สูงขึ้น 44 มม.

สำหรับความสูงที่ได้รับความเปลี่ยนแปลงมานั้น จะมีความสูงขึ้นอีก 44 มิลลิเมตร ซึ่งก็อาจจะไม่ได้ทำให้ตัวรถมีความสูงมากจนสามารถปีนป่ายได้เหมือนรถ Jeep 

อีกทั้งทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยความสูงจากพื้นอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดเดากันว่าจะสูงอยู่ที่ 170 - 180 มิลลิเมตร หรืออาจสูงกว่ารถเก๋งทั่ว ๆ ไป และไม่สามารถปรับความสูงได้แบบ Porsche 911 Dakar ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

อ่านเพิ่มเติม Lamborghini Urus ขายดีเกินไปจนลูกค้าใหม่ต้องรอ 19 เดือน

พร้อมจะลุยกันมานานแล้ว

แน่นอนว่าจะต้องมีการเสิรมความแข็งแกร่งของตัวรถมาให้ด้วยสำหรับการลุย โดยใต้ท้องรถจะมีแผ่นป้องกันทำจากอลูมิเนียม, ใส่ยาง Bridgestone Dueler AT002 ขนาด 19 นิ้ว ที่เป็นแบบรันแฟลทที่สามารถขับได้อีก 80 กม. ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. เมื่อลมยางเหลือ 0

นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ Rally ที่จะช่วยได้ในเวลาที่มีจุดยึดเกาะน้อย พร้อมทั้งสนอร์กเกิ้ลติดบนหลังคาที่จะช่วยกรองอากาศได้ในสนามฝุ่นเยอะ 

และยังมีซุ้มล้อที่ตีโป่งออกทำให้ด้านหน้ากว้างขึ้น 30 มม. และด้านหลัง 34 มม. มีไฟสปอตไลท์คู่หน้าและราวหลังคาที่สามารถใช้งานได้จริง

ไม่เน้นซิ่ง

สำหรับในด้านสมรรถนะอาจไม่ได้แรงเท่ารุ่น STO แต่ก็ยังได้เครื่องยนต์ 5.2 ลิตร V10 กำลัง 602 แรงม้า เท่ากับรุ่น Evo ขับหลัง และมีแรงบิด 565 นิวตันเมตร มีน้ำหนักตัว 1,470 กิโลกรัม

เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที ที่จะช้ากว่า Huracan รุ่นอื่น ๆ อยู่ 0.2-0.4 วินาที เว้นรุ่น Spyder ที่ต้องใช้ 3.5 วินาที

แต่ตัวรถได้มีการจำกัดความเร็วไว้เพียง 260 กม./ชม. 

ภายในได้ของใหม่

สำหรับรูปภาพภายในรถทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่กล่าวว่าจะมีการตกแต่งด้วยหนัง Alcantara Verde Sterrato

กราฟิกจออินโฟเทนเมนต์ใหม่, เพิ่มเกจแสดงผลทั้งเข็มทิศ, มาตรวัดองศาการเอียง, ระบบแสดงมุมบังคับเลี้ยว และแสดงมุมการเอียงของรถ  

นอกจากนี้ยังมี Amazon Alexa เชื่อมต่อกับรถเพื่อปรับไฟ, ระบบความบันเทิง และระบบปรับอากาศ 

อ่านเพิ่มเติม เผยค่าซ่อมเกียร์ Lamborghini มือสอง

รอราคาก่อน

Lamborghini Huracan Sterrato จะยังไม่มีการเปิดเผยราคา แต่กล่าวว่าทำมาจำกัดเพียว 1,499 คันเท่านั้น เริ่มเดินสายการผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 มีการคาดเดาว่าอาจจะอยู่ในระดับ 11-12 ล้านบาทขึ้นไปก็เป็นได้