เปิดตัว NIO ES7 ในจีน เอสยูวีไฟฟ้าสุดหรูที่หวังฆ่า Tesla Model Y พร้อมของใช้ถูกใจสายแคมป์ปิ้ง

NIO ES7 (นีโอ อีเอส7) เปิดตัวแล้วในจีน โดดเด่นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังกว่า 644 แรงม้า และขับได้ไกลสุด 850 กม. รวมถึงมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

หลังจากที่มีภาพแอบถ่ายเอสยูวีไฟฟ้าจากจีน NIO ES7 เมื่อไม่นานมานี้ ในที่สุดก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในจีน โดยมีตำแหน่งรุ่นอยู่ระหว่าง ES6 และ ES8 โดยเป็นรถรุ่นแรกของค่ายที่ใช้ในปรัชญาใหม่ของค่าย “Design for AD”

• ภายนอกตามสมัยนิยม ผสมดีไซน์เอกลักษณ์ของแบรนด์
• ใหญ่กว่า Tesla Model Y ทุกมิติ
• “ห้องนั่งเล่นแห่งที่สอง”
• กำลังกว่า 644 แรงม้า
• เอาใจสายแคมป์ปิ้ง
• เซนเซอร์ที่รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติกว่า 33 จุด
• ราคาเริ่ม 2.46 ล้านบาท

ภายนอกออกแบบตามสมัยนิยม ผสมดีไซน์เอกลักษณ์ของแบรนด์

NIO ES7 เป็นครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดกลางที่มีการออกแบบด้านหน้าคล้ายกับจมูกฉลาม พร้อมทั้งยังมีไฟหน้าแบบแยกส่วน ที่ด้านบนจะเป็นไฟเดย์ไลท์แบบ LED และด้านล่างจะเป็นไฟหน้ารวมถึงช่องดักอากาศขนาดใหญ่

ตัวรถถูกหุ้มด้วยพลาสติกสีดำด้านล่างตามการตกแต่งแบบครอสโอเวอร์ มือจับประตูที่แนบไปกับตัวรถ และกระจกลามิเนตกันเสียง ES7 ยังมีหลังคาลาดเอียงและไฟท้ายแบบ “air wing” ที่ช่วยแสดงถึงความกว้างของรถ ภายในไฟท้ายประกอบด้วยโมดูลคริสตัลของไฟ LED กว่า 202 หน่วยที่ “ควบคุมแยกกันในแต่ละหน่วยเพื่อเรียบเรียงความเคลื่อนไหวที่สวยงามคล้ายกับการกระพือปีก”

ใหญ่กว่า Tesla Model Y ทุกมิติ

มิติของตัวรถ NIO ES7 มีความยาว 4,912 มม. ความกว้าง 1,987 มม. และความสูง 1,720 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,960 มม. หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ES7 นั้นยาวกว่า Tesla Model Y 161 มม. และมีฐานล้อที่ยาวกว่า 70 มม. และสังเกตได้ว่า ES7 จะมีระยะฐานล้อที่ใกล้เคียงกับ Tesla Model X แต่จะมีขนาดโดยรวมที่สั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ภายในรถแบบ “ห้องนั่งเล่นแห่งที่สอง”

ส่วนภายในรถ ทางผู้ผลิตเรียกให้เป็น “ห้องนั่งเล่นแห่งที่สอง” ซึ่งดูเหมือนว่าทางนีโอนั้นไม่ได้ล้อเล่นเพราะ ES7 มีสิ่งที่เรียกว่าระบบ PanoCinema system ซึ่งเป็นการพัฒนาแว่น AR ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อฉาย “หน้าจอ” ขนาด 201 นิ้วที่ระยะห่าง 6 เมตรนอกตัวรถได้

นอกจากนี้ยังมีมาตรวัดแบบดิจิตอล พร้อมด้วยหน้าจอกลางแบบ AMOLED ขนาด 12.8 นิ้ว และ head-up display ในรถคันนี้ยังมาพร้อมผู้ช่วยที่ชื่อว่า NOMI ซึ่งอยู่ที่หน้าปัดภายในรถและคอยดูเราผ่านตาแบบดิจิตอล

ส่วนอื่น ๆ ที่โดดเด่น ได้แก่ คอนโซลกลางแบบลอยที่เก็บของด้านล่างได้, การตกแต่งโดยใช้หวายจาก karuun, ระบบเสียง Dolby Atmos surround, ไฟ ambient light 256 สี

นอกจากนี้ยังมีออพชั่นเสริมสำหรับ “หนัง Nappa ฟอกสีเปลือกกาแฟ” ซึ่งปราศจากสารเคมี ขณะเดียวกันก็มี “กลิ่นสมุนไพร” ที่เป็นเอกลักษณ์ให้เลือก และส่วนของเบาะนั่งยังมาพร้อมระบบอุ่นเบาะ ระบายอากาศ และการนวดสำหรับเบาะแถวหน้า และส่วนเบาะด้านหลังมาพร้อมระบบอุ่นเบาะพร้อมระบบปรับไฟฟ้าที่ปรับได้ระหว่าง 23 - 31 องศา

มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังกว่า 644 แรงม้า

ทางด้านของสมรรถนะของรถ ES7 มาพร้อมมอเตอร์คู่ในระบบขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ ซึ่งห้กำลังรวมที่ 644 แรงม้า (hp) และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ซึ่งทำใหครอสโอเวอร์คันนีมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.9 วินาทีในโหมด Sport+

นอกจากนี้ ลูกค้ายังมีทางเลือกสำหรับแบตเตอรี่ถึง 3 รูปแบบ โดยเริ่มต้นที่ความจุ 75 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ที่ 485 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ ถัดมาในรุ่น Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 100 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ที่ 620 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ หากยังไม่พอใจ ยังมีรุ่น Ultra-Long Range มีแบตเตอรี่ความจุ 150 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ที่ 850 กม. ต่อหนึ่งชาร์จเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : NIO ET5 อีวีที่ไล่บี้ Tesla Model 3 ด้วยการขับขี่ได้ถึง 1,000 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ

นอกจากระบบขับเคลื่อนที่ดูน่าสนใจแล้ว ES7 ยังมีระบบช่วงล่างแบบถุงลมให้มาเป็นมาตรฐานพร้อมกับระบบเบรค 4 พอทแก่ล้อคู่หน้าจาก Brembo ในรุ่นนี้ยังมีช่วงล่างที่ปรับได้ตามการขับขี่ การกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50 และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 10 รูปแบบด้วยกัน

เอาใจสายแคมป์ปิ้ง

ES7 ตั้งใจที่จะให้เป็นรถที่เหมาะกับการตั้งแคมป์ ด้วยน้ำหนักการลากจูงสูงสุดที่ 2,000 กก. และยังมีช่องเสียบไฟฟ้าขนาด 3.3 kW เพื่อใช้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อการตั้งแคมป์ เช่น เครื่องทำกาแฟ ลำโพงแบบพกพา หรือตู้เย็นขนาดเล็กได้ รถคันนี้ยังมาพร้อม Camping Mode ซึ่งสามารถทำให้รถเปิดระบบปรับอากาศไว้ตลอดคืนสำหรับการนอนในรถของเรา

เซนเซอร์ที่รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ

NIO ES7 มาพร้อมเซนเซอร์ต่าง ๆ รวม 33 จุด ได้แก่ ultra-long range LiDAR 1 จุด, กล้องขนาด 8MP 7 จุด, กล้องไวแสง 3MP 4 จุด, เรดาร์ระดับมิลลิเมตร 5 จุด และเซนเซอร์อัลตราโซนิค 12 จุด

ซึ่งเซนเซอร์เหล่านี้เป็นได้สนับสนุนแก่ระบบการขับขี่อัตโนมัติล่าสุดของ NIO ซึ่งได้ให้สัญญาว่าจะให้ “ประสบการณ์การขับขี่อัตโนมัติแบบจุดต่อจุด” ได้บนทางหลวงและในเขตเมือง

ราคาเริ่ม 2.46 ล้านบาท

ราคาของ NIO ES7 เริ่มต้นที่ 2.46 ล้านบาท ในแบตเตอรี่รุ่นเริ่มต้นขนาด 75 kWh ขณะที่รุ่น Long Range ความจุ 100 kWh จะเริ่มที่ 2.76 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ NIO กำลังเปิดรับพรีออเดอร์ในแอพและจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมเป็นต้นไป

อ่านเพิ่มเติม : Nio ใช้เวลาแค่ 4 ปี ผลิตและขายรถถึง 2 แสนคันได้อย่างไร