ทำเพื่อชาติ ทหารยูเครนนำเปลี่ยน Peugeot 307 เป็นรถติดอาวุธ

สงครามรัสเซีย–ยูเครน (Russo-Ukrainian War) ดำเนินเข้ามาสู่เดือนที่ 6 แล้ว แต่เหมือนว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติลงง่าย ๆ ซึ่งผลกระทบของสงครามครั้งนี้ได้ส่งผลไปทั่วโลกและทุกวงการ แม้กระทั่งวงการยานยนต์เอง ที่ราคาวัตถุดิบต่าง ๆ มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ท่ามกลางการต่อสู้ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะชนะ จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องนำเอาทุกยุทธวิธีมาใช้

เปลี่ยน Peugeot 307 ให้เป็นรถสำหรับสงคราม

กระทรวงกระทรวงกลาโหมของประเทศยูเครนได้เผยแพร่ภาพในช่องทาง twitter รูปภาพของทหารยูเครนในเมือง Izium ที่ได้นำเอารถ Peugeot 307 รุ่นเปิดประทุนมาทำเป็นรถสำหรับสงคราม โดยได้มีการนำเอาปืนมาติดตั้งในส่วนที่เป็นหลังคา และเมื่อชาวโลกได้เห็นสิ่งนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่เหมือนรถที่หลุดมาจากหนังเรื่อง Mad Max เลย

อ่านเพิ่มเติม : รถยนต์ไฟฟ้าอาจมีราคาสูงขึ้น จากเหตุสงครามยูเครน เพราะต้นทุนแพงจริง หรือแค่ปั่นกระแส?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำเอารถยนต์ไปใช้ในการทำสงคราม

Peugeot 307 ไม่ใช่รถคันแรกที่ถูกนำเอามาติดปืนด้านหลัง เมื่อ 6 เดือนที่แล้วชาวยูเครน ท่านหนึ่งได้นำเอา BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) มาติดอาวุธพร้อมเพ้นท์สีเป็นธงชาติยูเครน ในช่วงแรกที่สงครามได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งได้สร้างกระแสอย่างมากในหมู่ชาวยูเครน

หรือหากใครเคยจำกันได้ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ก่อการร้ายตาลีบันก็เคยมีการนำเอารถของ Toyota (โตโยต้า)  มาดัดแปลงเป็นรถสำหรับสงคราม โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมคือ Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) ที่นำมาติดตั้งอาวุธจนกลายเป็นภาพจำของใครหลายคน ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ Ford Ranger แทนเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรในเรื่องของอะไหล่ 

อ่านเพิ่มเติม : ลืมภาพตาลีบันใช้ Toyota Hilux ไปได้เลย เพราะตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใช้ Ford Ranger กันแล้ว

รถส่วนบุคคลติดอาวุธดีกับกองทัพยูเครนอย่างไร

ถ้าคุณตามข่าวเหตุการณ์นี้จะพบว่า สิ่งที่ทำให้ชาวยูเครนสามารถต้านทานกองทัพรัสเซีย คือการได้รับการสนับสนุนอาวุธต่าง ๆ จากฝั่งตะวันตก(นาโต้) อย่างไรก็ตาม กว่าอาวุธจะมาถึงนั้นต้องใช้เวลา ทั้งในแง่ของการขนส่งและการฝึกซ้อมการใช้อาวุธ ทำให้การนำเอารถยนต์ส่วนบุคคลมาติดอาวุธ สามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้อีกทั้งมีความคล่องตัวที่สูง

อ่านเพิ่มเติม : สงครามยูเครนทำนีออนกว่าครึ่งโลกหายไป ส่งผลร้ายต่อสถานการณ์ชิปขาดแคลนอีกแค่ไหน?

สงครามรัสเซีย–ยูเครนยังคงดำเนินต่อไป เราได้แต่หวังว่าสงครามครั้งนี้จะยุติโดยเร็ววัน เพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนของทั้งสองชนชาติและโลกใบนี้