Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) กำลังทาบทามค่ายรถจีนอย่าง Geely (จีลี่) ในการจัดหาชิ้นส่วนสำคัญภายในรถเพื่อลดต้นทุนสำรับรถรุ่นถัดไป

โดย Aston Martin จะให้นักลงทุนอย่าง Geely จัดหาส่วนประกอบภายในด้วยการเสนอราคาเพื่อช่วยลดต้นทุนและลดกรอบเวลาการพัฒนาตัวรถลง

Autocar รายงานคำพูดของ Roberto Fedeli ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ Aston Martin ว่า Geely จะช่วยในเรื่องเบาะนั่ง ระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และระบบปรับอากาศของรถรุ่นต่อไป

Fedeli กล่าวต่อไปว่าแอสตัน มาร์ตินจะพยายามจัดหา “ทุกสิ่งที่เราสามารถหาได้จากแหล่งที่หลากหลาย” เนื่องจากแบรนด์กำลังวางแผนที่จะเร่งการพัฒนาสำหรับรถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต

Amedeo Felisa ซีอีโอของ Aston Martin กล่าวว่า ภายใต้การพึ่งพา Geely นั้น คาดว่าบริษัทจะต้องลดการใช้ซัพพลายเออร์ที่มีอยู่เดิมลงไปถึง 30%

Geely ซึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของทั้ง Volvo, Lotus และ Polestar ได้ถือหุ้น Aston Martin มากกว่าเดิมถึง 2 เท่าในปีนี้ ทำให้จีลี่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามรองจาก Lawrence Stroll และกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีสัดสวนอยู่ที่ 17%

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Aston Martin ประกาศว่าจะพึ่งพาแบรนด์อเมริกันอย่าง Lucid ควบคู่ไปกับการเป็นพันธมิตรกับ Mercedes-Benz สำหรับระบบส่งกำลังและโครงสร้างของรถยนต์ไฟฟ้า

อ่านเพิ่มเติม: เผยโฉม Aston Martin DB12 พร้อมเครื่องยนต์ V8 จาก AMG ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.

Lawrence Stroll ประธานบริหารกล่าวว่า “ตอนนี้เรามีซัพพลายเออร์ระดับโลกสองรายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภายในและการลงทุนที่เรากำลังทำนั้นเป็นการนำเสนอกลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้าของเรา ควบคู่กับการเป็นพันธมิตรกับ Mercedes-Benz”

“จากการที่เราประกาศความร่วมมือระยะยาวกับ Geely เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรายังได้รับโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและส่วนประกอบต่าง ๆ รวมถึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกในตลาดเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของจีน”

ในการสร้างความสมดุลนั้น Geely ได้รับโอกาสในการแต่งตั้งกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารให้กับคณะกรรมการของ Aston Martin ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้น พร้อมให้บุคคลลำดับถัดมาทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์
Mercedes-Benz คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Aston Martin เป็น 20% ภายในสิ้นปี 2023 

การร่วมมือครั้งใหม่นี้จะช่วยให้ Aston Martin สามารถลดค่าใช้จ่ายและเร่งพัฒนาสำหรับรถที่ผลิตแต่ละคันได้ เนื่องจากมีแผนที่จะจำหน่ายรถประมาณ 7,000 คันในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นปีที่แล้ว 600 คันนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม: ทำไม Aston Martin ต้องพึ่งพา Lucid สตาร์ทอัพอเมริกันเพื่อสร้างรถอีวี