จะเสี่ยงไหมถ้าซื้อรถ Test Drive มาขับเพราะได้ลดราคาเยอะ? พร้อม 3 วิธีดูไม่ให้โดนเซลล์หลอก

นอกจากการออกแคมเปญดาวน์น้อยผ่อนอีกนาน หรือการมีส่วนลดต่าง ๆ ให้ ล้วนเป็นวิธีที่เซลล์จะให้มาเพื่อคุณใจอ่อนซื้อรถแล้ว ยังมีรถอีกชนิดที่อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างก็คือ "รถทดสอบ" หรือรถ Test Drive ที่อาจจะเอาออกมาขายบ้างพร้อมลดราคา

แต่จริง ๆ แล้วรู้หรือไม่ว่ามันไม่ค่อยน่าซื้อเสียเท่าไร เพราะอะไรเราจะมาบอกกัน

รถ Test Drive คืออะไร?

รถ Test Drive หรือรถทดลองขับ ก็คือรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกมาได้สักระยะหนึ่งมีไว้เพื่อให้ผู้ที่สนใจในรถรุ่นนั้น ๆ ได้ทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อรถ หรือก็ให้นักข่าวมาทดลองขับกัน แบบที่เห็น AutoFun Thailand ของเราขับกันบ่อย ๆ นั่นเอง

โดยรถ Test Drive จะมีอายุทดลองอยู่ประมาณ 5-7 เดือนแล้วแต่รุ่น ตามสภาพของรถ จากนั้นเมื่อต้องปลดระวาง ก็จะให้เซลล์นำเอาออกมาขายในราคาถูกลง

อ่านเพิ่มเติม รีวิว 2021 Audi RS4 Avant จ่าย 5.899 ล้านบาท ได้ฝูงม้า 450 ตัว

ทำไมไม่ควรซื้อ?

แน่นอนว่าเมื่อเป็นรถที่ทดลองขับมาแล้ว ย่อมผ่านการใช้งานมาสมบุกสมบันพอควร เพราะแต่ละคนจะมีแรงเท้าที่ไม่เหมือนกัน บางคนอยากทดสอบความเร็ว ก็เหยียบให้สุดรอบแดง บางคนอยากทดสอบเบรกก็จะเหยียบเบรกให้แรง

จึงอาจทำให้อะไหล่บางอย่างเช่น ผ้าเบรก, ยาง หรือบางคนที่อยากทดสอบความนิ่มขับขึ้น-ลงเนินหรือหลุมแรง ๆ ก็อาจทำให้ช่วงล่างไม่ดีไปด้วยได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซลล์หรือศูนย์ต้องการจะขายรถ ก็อาจจะมีการเอารถไปอาบน้ำปะแป้งใหม่ ประหนึ่งว่าเป็นรถป้ายแดง จะมีการถ่ายน้ำมันเครื่อง, เปลี่ยนแบตเตอรี่, ชุดแต่งรถใหม่, ฟิล์มติดรถยนต์ เละประกันภัยรถยนต์ หรืออื่น ๆ จนเหมือนซื้อป้ายแดง แต่จริง ๆ แล้วก็คือรถมือสองดี ๆ นี่เอง

ต้องดูอะไรบ้างหากไม่อยากได้รถทดสอบ?

ในบางกรณี ที่เป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อน ว่ามีผู้ซื้อรถยนต์ป้ายแดงมาจากศูนย์แต่เมื่อนำรถไปล้างกลับพบว่ามีสติ้กเกอร์ Test Drive แปะอยู่ ทำให้รู้ว่ารถที่ตนได้นั้นไม่ใช่ป้ายแดงจึงมีการชดใช้ค่าเสียหายกันเรียบร้อย

ซึ่งจริง ๆ นี่ไม่ใช่ความผิดของศูนย์แต่ขึ้นอยู่กับเซลล์ที่จะขายให้เรามากกว่า แล้วถ้าเราไม่อยากได้รถทดสอบ จะมีวิธีดูอย่างไรบ้าง มาดูกัน

1. ดูเลขไมล์

แน่นอนว่าต้องมาดูที่ไมล์กันก่อน ว่ารถที่เราได้รับมานั้นมีเลขไมล์ที่เท่าไร โดยปกติแล้ว รถที่อยู่ในศูนย์นั้นไมล์จะไม่เกิน 50 กิโลเมตรบวกลบ เนื่องจากจะมีการขับไปติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเช่น ฟิล์ม

นอกจากนี้ รถทดลองขับก็จะมีอายุการใช้งานของมันเอง โดยจะมีเลขไมล์ที่ 500 กม.ขึ้นไปก็จะนำออกมาขาย ถ้าเลขเกินกว่านี้ มีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะเป็นรถทดสอบ

แต่ถ้าหากมีการกรอไมล์จะทำอย่างไร? ต้องไปดูวิธีต่อไปนี้

2. ดูส่วนลด ราคา

เข้าใจได้ว่าทุกคนไม่อยากซื้อรถราคาแพง แต่ก็ต้องดูด้วยว่าของที่ได้มานั้นมีคุณภาพหรือไม่ มีเซลล์แอบกระซิบมาว่า รถออกใหม่ มีเพดานการให้ส่วนลดอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาทไม่เกินนี้ ส่วนรถทดสอบจะอยู่ที่ 100,000 บาทขึ้นไป มากถึง 150,000 ก็มี

วิธีการดูง่าย ๆ คือหากคุณลองตรวจสอบทุกโชว์รูมแล้ว สมมุติให้ส่วนลด 80,000 บาททั้งหมด แต่อีกที่หนึ่งให้ 150,000 บาท แต่มีสีเดียวเท่านั้นให้รีบซื้อ ก็มีโอกาสสูงเช่นกันที่จะเป็นรถเทสต์ไดร์ฟ เนื่องจากปกติเขาจะมีให้ลองขับเพียง 1-2 คันเท่านั้น

3. ถามเลยตรง ๆ

วิธีนี้เป็นทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเซลล์เหลี่ยมมา เราก็ต้องเหลี่ยมกลับ ให้ลองถามเซลล์ที่เราจะซื้อรถด้วยว่า "มีรถทดสอบไหม?" หากมี เซลล์ก็จะบอกรายละเอียด สมมุติเป็น Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) สีอะไร ไมล์เท่าไร ส่วนลดแค่ไหน

เสร็จแล้วเมื่อเราตัดสินใจว่าไม่อยากได้ ให้บอกเซลล์ว่าอยากได้รถใหม่แทน เท่านี้ก็จะพอเป็นจุดสังเกตุได้ว่า Suzuki Swift สีนี้ ไมล์นี้ควรเลี่ยง

สุดท้าย การซื้อรถทดสอบหรือรถ Test Drive ไม่ได้เป็นเรื่องผิดหรือเสี่ยงแต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้วจุดประสงค์ก็คือการใช้งาน และเป็นเงินของคุณเอง

รถทดสอบไม่ต่างอะไรกับการซื้อรถมือสองมาใช้งาน อะไหล่อาจมีการสึกหรอไปบ้าง แต่บางครั้งศูนย์ก็จะมีการดูแลเปลี่ยนให้

แต่หากซื้อรถทดสอบมาแล้วดูแลรักษา ก็สามารถใช้ได้ดีไม่ต่างจากรถใหม่ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ สภาพรถ และเงินในประเป๋า รถ Test Drive จึงเป็นตัวเลือกที่อาจจะน่าสนใจกับใครหลายคนครับ