- เหตุผลที่การพัฒนารถไฟฟ้าที่รวดเร็วของนอร์เวย์
- รถใหม่ไฟฟ้าล้วนในนอร์เวย์จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในอีกไม่เกิน 2 ปี
- ยังมีพื้นที่ที่รถยนต์ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง
- สถิติปัจจุบันของนอร์เวย์
นอร์เวย์ ถือว่าเป็นประเทศที่เป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า และตอนนี้ก็เพิ่งประสบความสำเร็จในอีกหมุดหมายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
จากรายงานของ Bloomberg ระบุว่าตอนนี้รถยนต์นั่งกว่า 20% ในนอร์เวย์นั้นเป็นไฟฟ้าล้วน โดยในเมืองหลวงอย่างออสโล นั้นมีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) มากกว่า 33%
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ตัวเลขดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะประเทศอื่น ๆ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยกว่าที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ขณะนี้มีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีสัดส่วน BEV ที่สูงกว่า 20% และหากพูดถึงยอดขายรถใหม่แล้ว นอร์เวย์เป็นประเทศที่รถใหม่ส่วนใหญ่เป็น BEV แล้ว
เหตุผลที่การพัฒนารถไฟฟ้าที่รวดเร็วของนอร์เวย์
ในกรณีของนอร์เวย์ มีหลายปัจจัยที่เราจะต้องพิจารณาเพื่อจะเข้าใจว่าเหตุใดกระบวนการเหล่านี้ถึงได้รวดเร็วนัก ประการแรกเลยก็คือ นอร์เวย์เป็นประเทศที่ร่ำรวย ประการที่สองคือชาวนอร์เวย์ตระหนักถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมกันอย่างมาก
ประการสุดท้ายคือประเทศนี้มีมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่และรวดเร็ว เช่นการงดเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือศูนย์เปอร์เซนต์ ด้วยเหตุผลที่ว่า รถเครื่องยนต์สันดาปถูกเก็บภาษีเป็นจำนวนมากมานาน จึงทำให้ BEV มีข้อได้เปรียบในส่วนนี้
อ่านเพิ่มเติม : นอร์เวย์จะขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 100% ในเมษายน 2022 เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 3 ปี
รถใหม่ไฟฟ้าล้วนในนอร์เวย์จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในอีกไม่กี่ปี
สำนักข่าวเดิมยังกล่าวว่า จากข้อมูลโดย Norwegian Electric Vehicle Association หรือองค์กรรถยนต์ไฟฟ้าของนอร์เวย์ระบุว่า ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปีต่อจากนี้ (ก่อน 2025) สัดส่วนของ BEV ของทั้งประเทศนอร์เวย์จะสูงถึง 30% โดยเทียบจากสถิติเดิมที่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนจาก 10% มายัง 20% นั้นใช้เวลา 3 ปี
มีพื้นที่ที่รถยนต์ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงด้วย
ในทางกลับกัน มีบางพื้นที่ในนอร์เวย์ที่การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้านั้นช้ากว่าพื้นที่อื่นในประเทศ ตัวอย่างเช่น เขต Finnmark ในนอร์เวย์ตอนเหนือ นั้นมีสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าล้วนอยู่เพียง 4.7%
ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย (อากาศหนาว) โครงสร้างพื้นฐานที่หนาแน่นน้อยกว่า ไปจนถึงกำลังซื้อของคนในพื้นที่เมื่อเทียบกับเมืองหลวง ซึ่งเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจของประเทศและคาดว่าเป็นพื้นที่ที่มั่งคั่งที่สุดรวมถึงมีรูปแบบการจำหน่ายรถที่หลากหลายกว่า
สถิติปัจจุบันของนอร์เวย์
จากข้อมูลพบว่า กว่า 90% ของรถยนต์นั่งในนอร์เวย์นั้นเป็นแบบชาร์จไฟได้ จากสถิติของปี 2022 ใน 11 เดือนแรก มีรถเสียบปลั๊กกว่า 118,525 คันที่ได้รับการจดทะเบียน ซึ่งคิดเป็น 88% ของรถใหม่ทั้งหมด (78.3% เป็น BEV และ 9.6% เป็นปลั๊กอินไฮบริดหรือ PHEV) และยังพบว่า Tesla Model Y คือรถรุ่นที่ขายดีที่สุดในยอดขายรถประจำปีของนอร์เวย์
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2025 รถใหม่ทุกคันที่ขายในนอร์เวย์จะไม่ปล่อยมลพิษ ซึ่งหมายความว่ารถปลั๊กอินไฮบริดก็จะหายไปจากประเทศในอีกไม่นาน
หลังจากนี้ไม่กี่ปี รถเครื่องยนต์สันดาปบนถนนก็จะมีอายุมากขึ้นและค่อย ๆ หมดอายุขัยลงตามกาลเวลา จนมีสัดส่วนบนท้องถนนน้อยลงไปในที่สุด
อ่านเพิ่มเติม : นอร์เวย์ผงาดชาติแรกยอดขายรถพลังไฟฟ้าแซงรถเครื่องยนต์สันดาป – แล้วเมืองไทยล่ะ?
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });