2020 Bangkok International Motor Show ปิดยอดขายรวม 22,791 คัน

Toyota Mazda และ Honda คือค่ายรถยนต์ที่มียอดจองรถยนต์ในงาน 2020 Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 41 สูงสุดเป็น 3 ลำดับแรก ส่งผลให้ยอดจองทั้งงานปิดที่ 22,791 คัน พร้อมตัวเลขผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 ล้านคน ใกล้เคียงตัวเลขประมาณการณ์

จาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 เปิดเผยว่า การงานแสดงรถยนต์ในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นการจัดงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้วยมาตรการป้องกันและคัดกรอง รวมถึงขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ ในการเข้าชมงานที่รัดกุมและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ มีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนถึง 1,049,046 คน ขณะที่ยอดจองในงานจบที่ 22,791 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถในช่วงครึ่งปีหลังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น

“ตัวเลขยอดจองรวมทุกค่ายอยู่ที่ 22,791 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 18,381 คัน และรถจักรยานยนต์ 4,410 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าที่แต่ละบริษัทได้คาดการณ์ไว้ แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก”

โตโยต้า-มาสด้า-ฮอนด้า คึกคักสร้างยอดจอง

จำนวนยอดจองที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดงานจำนวน 22,791 คัน พบว่าค่ายรถที่มีรถยนต์ใหม่เปิดตัว หรือมีการตัดแคมเปญโปรโมชั่นยังได้รับความนิยมเหมือนที่ผ่านมา โดยโตโยต้า ทำยอดจองในงานสูงสุดรวม 3,745 คัน ตามมาด้วยอันดับ 2 มาสด้า ที่มียอดจองรวม 2,365 คัน และอันดับ 3 เป็นของฮอนด้า ที่มียอดจองรวม 2,001 คัน 

อันดับ 4 ซูซูกิ ยอดจองรวม 1,583 คัน อันดับ 5 อีซูซุ ยอดจองรวม 1,510 คัน อันดับ 6 เอ็มจี ยอดจองรวม  1,399 คัน อันดับ 7 มิตซูบิชิ ยอดจองรวม 1,227 คัน อันดัน 8 นิสสัน ยอดจองรวม 952 คัน อันดับ 9 บีเอ็มดับเบิ้ลยู ยอดจองรวม 888 คัน และอันดับ 10 ฟอร์ด ที่มียอดจองรวมถึง 742 คัน

ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ก็มีความคึกคักเช่นเดียวกัน โดยค่ายรถที่มียอดจองมากสุดได้แก่ ฮอนด้า ที่มียอดจองรวม 1,545 คัน อันดับ 2 ยามาฮ่า ยอดจองรวม 1,387 คัน อันดับ 3 คาวาซากิ ยอดจองรวม 446 คัน อันดับ 4 รอยัล เอนฟิลด์ ยอดจองรวม 321 คัน และอันดับ 5 ซูซูกิ 203 คัน

ชี้การจัดงานกระตุ้นตลาด-ปีหน้าจัดงานมีนาคมเหมือนเดิม

จาตุรนต์กล่าวว่าการจัดงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ และความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จะส่งผลให้แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังให้มีตัวเลขการเติบโตเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากยอดจองที่เกิดขึ้นภายในงานมีตัวเลขเกินกว่าที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้  

ทั้งนี้ หากดูจากตัวเลขยอดจองที่เกิดขึ้นน่าจะบ่งชี้ได้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการซื้อรถจริง เพราะผู้บริโภคมีความเข้าใจและเลือกซื้อรถที่เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง ซึ่งตลาดรถยนต์ในกลุ่มราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค

สำหรับเป้าหมายการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 นั้น จาตุรนต์ระบุว่าการจัดงานดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม-4 เมษายน 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ซึ่งเป็นการกลับไปจัดในช่วงเวลาเดิมของงานมอเตอร์โชว์อีกครั้ง