Polestar 2 ปรับหน้าตาเล็กน้อย ลดสเปคไฟฟ้าเหลือขับเคลื่อนล้อหลัง เพื่อทำราคาต่ำลงมาสู้กับเทสล่า โมเดล 3 วางขายในปีนี้ในต่างประเทศ
รีบไมเนอร์เชนจ์
Polestar 2 ปรับหน้าตาเล็กน้อย ลดสเปคไฟฟ้าเหลือขับเคลื่อนล้อหลัง เพื่อทำราคาต่ำลงมาสู้กับเทสล่า โมเดล 3 วางขายในปีนี้ในต่างประเทศ
รีบไมเนอร์เชนจ์
Polestar 2 เปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามถึงขั้นส่งมอบไปแล้ว 100,000 คันใน 27 ประเทศทั่วโลก ทำให้ในปีนี้ต้องรีบกระตุ้นตลาดไม่ให้กระแสตก ด้วยการปรับหน้าตาและสเปคเล็กน้อยแบบไมเนอร์เชนจ์ มีความแตกต่างด้านหน้าตรงพื้นที่กระจังหน้าสีดำเดิม กลายเป็นแผงปิดทึบสีเดียวกับตัวรถ ซึ่งค่ายรถเรียกว่า SmartZone เพราะเป็นศูนย์รวมระบบตรวจจับการชนด้านหน้าที่สำคัญ
สเปคแรงขึ้น
2024 Polestar 2 เพิ่มสเปคขับหลังมาให้เป็นครั้งแรก รวมถึงใส่มอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ เมื่อเทียบกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเดิมพบว่าดีขึ้นทุกอย่าง ตั้งแต่เพิ่มพลังจาก 231 เป็น 299 แรงม้า กับแรงบิด 490 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายในเวลาต่ำลงเหลือ 5.9 วินาที ใส่แบตเตอรี่ความจุ 82 kWh ทำระยะทางได้ไกล 480 กม. (เดิม 432 กม.) รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 205 กิโลวัตต์
รุ่นย่อย Polestar 2
ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อก็ปรับจูนการจ่ายพลังไฟฟ้าใหม่ ให้เอื้อเข้าหาล้อหลังมากขึ้น พร้อมระบบตัดกำลังมอเตอร์คู่หน้าเมื่อร้อนเกินไป ทำให้ได้ระยะทางการขับขี่เพิ่มอีกเล็กน้อย ตามตารางนี้
รุ่นย่อย |
ระบบขับเคลื่อน |
ความจุแบตเตอรี่ |
ระยะทางที่วิ่งได้แบบ EPA |
กำลัง |
แรงบิด |
อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. |
กำลังชาร์จไฟสูงสุด |
Long Range มอเตอร์คู่ (มี Performance Pack) |
AWD |
78 kWh |
432 กม. |
455 แรงม้า |
740 นิวตันเมตร |
4.1 วินาที |
155 kW |
Long Range มอเตอร์คู่ |
AWD |
78 kWh |
432 กม. |
421 แรงม้า |
740 นิวตันเมตร |
4.3 วินาที |
155 kW |
Long Range มอเตอร์เดี่ยว |
ล้อหลัง |
82 kWh |
480 กม. |
299 แรงม้า |
490 นิวตันเมตร |
5.9 วินาที |
205 kW |
รุ่นท็อปได้ Performance Pack ในตัว
ส่วนในชุดแต่งย่อย Performance Pack ได้เปลี่ยนล้อเป็นขนาด 20 นิ้วแบบฟอร์จน้ำหนักเบา ใส่โช้คอัพ Öhlins แบบวาล์วคู่ใช้ระบายแรงดันในกระบอกได้ดีขึ้น ใช้เบรคเบรมโบ้ให้มาด้วย ส่วนภายในได้เครื่องเสียง Harman Kardon และตกแต่งสายเข็มขัดนิรภัยเป็นสีทอง ให้เข้ากับเบาะสีเบจและสายไม้สีโทนสว่าง
ชุดอัพเกรดนี้เคยขายแยกไปเป็นอุปกรณ์เสริม แต่ตอนนี้ได้ใส่มาให้ในรุ่นย่อยตัวท็อปแล้ว ส่วนในรุ่นย่อย Dual Motor เพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่ Pilot Pack พร้อมปรับจูนโปรแกรมการขับขี่ใหม่ทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม : Polestar 2 เปิดแพ็คเกจให้ซื้อความแรงเพิ่มเป็น 476 แรงม้า แพงกว่า Tesla Model 3 นิดเดียว
ราคาแพงขึ้นจากเดิม
ราคาขายในยุโรปประกาศออกมาแล้ว แพงขึ้นกว่าเดิมหลายพันยูโร นับว่าเป็นการสวนกระแสรถไฟฟ้าอย่าง Tesla Model 3 ที่กำลังลดราคาถูกลงกว่าเดิม เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะมีค่าตัวดังนี้
รุ่นย่อย |
ราคา Polestar 2 เดิม |
ราคาใหม่ |
Standard Range Single Motor |
EUR 45,500 |
- |
Long Range Single Motor |
EUR 48,500 |
EUR 53,890 |
Long Range Dual Motor |
EUR 51,500 |
EUR 58,190 |
Long Range Dual Motor (w/Performance Pack) |
- |
EUR 64,690 |
อ่านเพิ่มเติม : จากต้นแบบสู่คันจริง Polestar 2 BST Edition 270 กำลัง 476 แรงม้า เริ่ม 2.5 ล้านบาทจำนวนจำกัด
เทียบกับราคา Tesla Model 3
ราคา Polestar 2 ที่ปรับขึ้นใหม่นี้ มีค่าตัวสูงกว่า Tesla Model 3 ในทุกรุ่นย่อย โดยเฉพาะรุ่นล่างสุด ทำให้ดูเหมือนกลายเป็นรถคนละกลุ่มลูกค้าไปเลย โดยเมื่อเทียบทั้ง 3 รุ่นย่อยในเรตราคายูโรขายเยอรมันแล้ว มีความแตกต่างกันดังนี้
รุ่นย่อย |
ราคา Polestar 2 ใหม่ |
ราคา Tesla Model 3 |
Long Range Single Motor |
EUR 53,890 |
EUR 43,990 |
Long Range Dual Motor |
EUR 58,190 |
EUR 53,990 |
Long Range Dual Motor (Performance) |
EUR 64,690 |
EUR 60,990 |
2024 Polestar 2 โฉมโมเดลเชนจ์นี้ เปิดรับจองแล้วในหลายประเทศ และจะเริ่มส่งมอบได้ในกลางปีนี้เป็นต้นไป ส่วนประเทศไทยกำลังจะมีการเปิดตัว Volvo C40 Recharge สเปคขับเคลื่อนล้อหลัง ที่มีคำถามว่าจะมาถล่มเทสล่าในไทยได้หรือไม่ ต้องติดตามราคาวันเปิดตัว
อ่านเพิ่มเติม : Tesla Model Y ไฟดับกะทันหัน ทั้งที่ชาร์จมาแล้ว เจ้าของรถแนะนำ ไปซื้อรถ Polestar ดีกว่า
พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง
Volvo XC40 Recharge Pure Electric 2022
แลก
เพิ่มรถของคุณ