เป็นไปได้ไหม? Honda วางเป้าหมายลดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตเป็นศูนย์ในรถยนต์และมอเตอร์ไซค์

Honda (ฮอนด้า) กำหนดเป้าหมายสุดทะเยอทะยานในกลยุทธ์การเดินหน้ารณรงค์ลดอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั่วโลกให้เป็นศูนย์หรือจะไม่มีผู้ขับขี่เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว

เป้าหมายดังกล่าวของ Honda มีกรอบระยะเวลาภายในปี 2050 ครอบคลุมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ นั่นหมายความว่าหากเป้าหมายดังกล่าวสัมฤทธิ์ผล ผู้ขับขี่รถสองล้อและสี่ล้อของ Honda ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยในอีกราว 30 ปีข้างหน้าจะไม่มีใครต้องล้มตายเพราะการเดินทางสัญจรอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ Volvo (วอลโว่) ได้ประกาศกลยุทธ์คล้ายกันนี้เช่นกันภายใต้แผน Safety Vision ที่มุ่งลดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตในรถยนต์ Volvo ให้เหลือน้อยที่สุด โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญของค่ายรถยักษ์ใหญ่จากสวีเดนคือการจำกัดความเร็วรถยนต์ทุกรุ่นไว้ที่ 180 กม.ต่อชม.

แล้ว Honda จะทำอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมาย?

โทชิฮิโระ มิเบะ ประธานกรรมการ Honda เปิดเผยว่า ความท้าทายอันใหญ่หลวงของการมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าวคือการลดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งครอบคลุมถึงอินเดีย เวียดนาม และไทยที่มีการใช้งานรถสองล้อเป็นจำนวนมาก

“ในฐานะบริษัทยานยนต์ที่ผลิตทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงยานพาหนะอื่น ๆ เราจะยกระดับการวิจัยเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้รถจักรยานยนต์มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมที่ปราศจากอุบัติเหตุ” มิเบะกล่าว

ประธานกรรมการ Honda ชี้ว่ารถยนต์ก็จะต้องมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่ล้ำสมัยมากขึ้นเพื่อป้องกันการพุ่งชนปะทะกับรถจักรยานยนต์ โดยรถยนต์ Honda ทุกรุ่นในปี 2030 จะต้องมาพร้อมระบบ ADAS อย่างระบบช่วยเบรกฉุกเฉินป้องกันการชน ระบบแจ้งเตือนการออกนอกเลน และระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน เป็นต้น

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Honda เพิ่งเผยโฉม 2021 Honda Legend (2021 ฮอนด้า เลเจนด์) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 หรือ Level 3 ครั้งแรกในโลก ระบบนี้ช่วยควบคุมตัวรถให้โลดแล่นไปบนถนนไฮเวย์หรือทางด่วนได้โดยอัตโนมัติ ขณะที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องมองถนนหรือจับพวงมาลัย

มิเบะ กล่าวเน้นย้ำว่าการพุ่งเป้าไปที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากขึ้น แต่ต้องมีการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อดำเนินมาตรการร่วมกัน โดยเฉพาะการให้ความรู้ในด้านการใช้ยานพาหนะที่ถูกต้อง ภาครัฐต้องมีนโยบายที่สนับสนุนความปลอดภัยและต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรที่รองรับการใช้งานของประชาชน