Nissan (นิสสัน) ประกาศเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วว่าจะขายหุ้นของ Daimler จำนวน 1.54% ออกไปซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 1.15 พันล้านยูโรหรือราว 4.3 หมื่นล้านบาท
การขายหุ้นของ Nissan ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากพันธมิตรอย่าง Renault ซึ่งประสบภาวะขาดทุนหนักในปี 2020 เพิ่งขายหุ้นของ Daimler จำนวน 1.54% ออกไปเช่นกันในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
การถือครองหุ้นร่วมกันระหว่าง Nissan, Renault และ Daimler เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วอันเป็นผลจากข้อตกลงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยียานยนต์ระหว่างกันเพื่อสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจมากมาย อย่างรถกระบะพรีเมียม Mercedes-Benz X-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส) ที่สร้างบนพื้นฐานเดียวกับ Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า)
ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Nissan ทุ่มเทความพยายามอย่างหนักหวังฟื้นฟูกิจการกลับมามีผลกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืนได้อีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินและภาพลักษณ์องค์กร เมื่อคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานใหญ่ถูกจับกุมข้อหากระทำผิดกฎหมายการเงินในประเทศญี่ปุ่น
Nissan ระบุในแถลงการณ์ว่าการขายหุ้นของ Daimler “จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงการลงทุนเพื่อส่งเสริมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในอนาคต”
พูดง่าย ๆ ก็คือ Nissan ต้องการเงินทุนเพื่อที่จะนำมามาลงทุนต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยี โดยฝากความหวังไว้ที่รถยนต์พลังงานทางเลือกเป็นหลัก
สำนักข่าว Reuters คาดการณ์ว่า Nissan จะขายหุ้น Daimler ออกไปที่มูลค่า 69.85 ยูโรต่อหุ้น น้อยกว่า Renault ที่ขายออกไปที่ 72.41 ยูโรต่อหุ้น
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยระบุว่า ถึงแม้จะขายหุ้นออกไปแล้ว แต่ความร่วมมือด้านเทคโนโลยียานยนต์กับ Daimler จะยังคงเดินหน้าต่อไปและไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งสองฝ่ายจะมีการผนึกกำลังกันในหลากหลายด้านเช่นเดิม
ปัจจุบัน Nissan ยังต้องรับมือกับปัญหาขาดแคลนชิปส์เซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ต้องระงับสายการผลิตและลดกำลังการผลิตที่โรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}