Tesla จะสูญรายได้ 350 ล้านเหรียญ เพราะมีค่ายรถพลิกโรงงานดีเซลใหญ่สุดในโลก มาทำ EV

โรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอาคารใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ฝรั่งเศส เป็นของเครือ Stallantis ที่ประกอบขุมพลังให้รถ Peugeot (เปอโยต์), Citroen (ซีตรอง), Ford, Mini ฯลฯ ส่งออกไปใส่ในตัวถังรถ ที่หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงโรงงานในมาเลเซียที่ประกอบรถเปอโยต์ส่งขายไทยด้วย

ความยิ่งใหญ่นี้จะถูกลบไป เพราะโรงงานแห่งนี้ประกาศเลิกกิจการผลิตเครื่องดีเซลทั้งหมดในปีนี้ แล้วหันไปประกอบมอเตอร์ไฟฟ้าแทน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ ส่งผลให้ Tesla กำลังจะสูญเสียรายได้ 350 ล้านดอลล่าร์/ปีกันเลยทีเดียว

​อดีตรุ่งเรือง แต่ร่วงเพราะโควิด

โรงงานผลิตเครื่องเปอโยต์นี้ เคยมีกำลังการผลิตเครื่อง 7,000 ตัวต่อวัน ยอดผลิตต่อปีเคยได้ถึง 1.75 ล้านเครื่อง แต่ในช่วงปี 2020 ที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ยอดการซื้อรถน้อยลง คนงานก็ต้องหยุดงานกักตัว ทำให้ยอดการผลิตเหลือไม่ถึง 10% จากเดิม ดังนั้นช่วงที่โรงงานเงียบเหงานี้ ประกอบกับมาตรฐานมลพิษที่เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ จึงเหมาะแก่การเปลี่ยนแนวทางจากดีเซลไฟฟ้า

ไม่ง้อเทสล่า​

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะทำให้เปอโยต์กลายเป็นผู้ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเอง ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจาก Continental และ Valeo-Siemens และไม่ต้องซื้อคาร์บอนเครดิตจาก Tesla อีกต่อไป โดยหันมาร่วมมือกับ Nidec จากญี่ปุ่น พร้อมแล้วสำหรับการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า 180,000 ลูกในช่วงปีนี้ และจะทะยอยเพิ่มกำลังการผลิตจนแตะ 1 ล้านลูกในปี 2025

​Tesla เสียลูกค้าซื้อคาร์บอนเครดิต

ทางด้านบริษัทผลิตรถไฟฟ้าอย่าง Tesla จะได้รับผละกระทบทันที เพราะกลุ่ม Stallantis เป็นลูกค้ารายสำคัญที่มาขอซื้อคาร์บอนเครดิตกับเขา โดยใน 1 ปีที่ผ่านมา เทสล่าทำรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตให้กลุ่มนี้ เป็นเงินถึง 350 ล้านบาท สาเหตุที่ทำรายได้มาก เพราะว่ากลุ่มรถนี้ เป็นการรวมตัวของบริษัทรถถึง 15 ค่ายในกลุ่มเดียว ทำให้เวลาซื้อเครดิตนี้ ก็ต้องจ่ายจำนวนมากตามไปด้วย

Carbon Credit คืออะไร

Carbon Credit (คาร์บอนเครดิต) คือ การขายสิทธิ์การปล่อยก๊าชเรือนกระจกที่เหลือให้แก่ผู้อื่นได้ ซึ่งผู้ขายก็คือบริษัทที่ปล่อยก๊าชเรือนกระจก ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาชาติร่วมกันกำหนด ซึ่งจะเกิดประโยชน์ให้บริษัทเล็กสามารถมีรายได้จากการขายโควต้าการปล่อยก๊าซที่เหลืออยู่ และช่วยบังคับให้บริษัทใหญ่ออกผลิตภัณฑ์ลดการทำลายสิ่งแวดล้อมเกินตัว

รถอะไรได้รับผลกระทบบ้าง

การเปลียนโรงงานเครื่องยนต์นี้ ทำให้รถบางรุ่นที่ใช้เครื่องดีเซลก็จะต้องยุบตัวเลือกไปด้วย โดยในทวีปยุโรปจะเป็นรถทุกรุ่นในเครือ เช่น รถตู้ Peugeot Expert, Citroen Berlingo รถเก๋ง Peugeot 508, เอสยูวี Peugeot 3008/5008 แต่ส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบก็มี

​รถกระบะไม่ได้รับผลกระทบ

รถกระบะของกลุ่มเปอโยต์คือ Peugeot Landtrek (เปอโยต์ แลนด์เทร็ค) กลับไม่ได้รับผลกระทบการเลิกกิจการดีเซลนี้ เพราะรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ที่ประกอบขึ้นจากจีน ทำรถส่งขายในตะวันออกกลาง อัฟริกา เอเชีย และลาตินอเมริกา ที่ซึ่งไม่ซีเรียสเรื่องค่ามลพิษต่ำมากนัก

เมืองไทยยังขายเปอโยต์ต่อไป

แน่นอนว่า 2021 Peugeot 3008 และ 5008 ที่ขายในบ้านเรานี้ไม่มีผลกระทบ เพราะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรทั้งสองรุ่น ยังทำยอดขายได้อย่างเรื่อย ๆ โดยยังไม่มีวี่แววจะได้ Peugeot Landtrek เข้ามาขายแต่อย่างใดในปีนี้