Honda ในประเทศญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จเมื่อ Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) ทำยอดขายแตะหลัก 1 ล้านคันหลังจากเริ่มทำตลาดครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว
รถมินิเอ็มพีวี Freed ซึ่งมาจากคำว่า Freedom หรืออิสรภาพ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2008 มาพร้อมสโลแกนในตลาดบ้านเกิดว่า “This is the best Honda” หรือ “นี่คือรถ Honda ที่ดีที่สุด” รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบด้วยการจัดวางเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการใช้งานของผู้กำลังก่อร่างสร้างครอบครัว
Freed เจนเนอเรชั่นแรกเข้ามาทำตลาดเมืองไทยด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ส่วนหนึ่งมาจากการทับซ้อนกับรถรุ่นอื่น ๆ ของ Honda รวมถึงราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างสูง รุ่นเริ่มต้นทะลุหลัก 8 แสนบาท ขณะที่ตัวท็อปเคยขึ้นไปเกือบถึง 1.1 ล้านบาทเลยทีเดียว
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นนำเสนอ Freed เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในเดือนกันยายน 2016 และได้รับการปรับไมเนอร์เชนจ์ในเดือนตุลาคม 2019 โดดเด่นด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda Sensing เพื่อความอุ่นใจในการใช้งานของลูกค้า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสจำหน่ายในเมืองไทย
เว็บไซต์ Creative311 ในแดนอาทิตย์อุทัยรายงานว่า 2022 Honda Freed เจนเนอเรชั่นใหม่อาจเผยโฉมครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้ ก่อนออกจำหน่ายจริงในช่วงต้นปีหน้า พร้อมแข่งขันกับ Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า) ที่มีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ภายในปีนี้เช่นกัน
รายงานข่าวระบุด้วยว่ารูปลักษณ์ภายนอกและการออกแบบภายในของ Freed รุ่นใหม่จะถูกยกเครื่องเปลี่ยนแปลงใหม่หมดจด เน้นเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ของ Honda โดยเฉพาะแผงคอนโซลที่ใช้หน้าจอทัชสกรีนติดตั้งด้านบนและมีแผงควบคุมอากาศติดตั้งต่ำลงมา
สำหรับหน้าตาภายนอกอาจถ่ายทอดมาจากรถซับคอมแพ็กต์ Fit หรือ Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) ใหม่ผสมผสานกับดีไซน์ของ HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ใหม่ มาพร้อมความเรียบง่าย สะอาดตา และแฝงความสปอร์ตเล็ก ๆ น่าใช้งาน
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนของ Freed ใหม่มีความเป็นไปได้ว่ายกมาจากรุ่นเดิมนั่นคือเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร VTEC แต่ก็จะมีขุมพลังไฮบริด e:HEV ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ด้วยซึ่งเป็นแนวทางการทำตลาดเหมือนกับ Jazz ใหม่นั่นเอง
ระบบความปลอดภัยอย่าง Honda Sensing ก็จะติดตั้งมาใน Freed ใหม่สเปกแดนปลาดิบด้วยเช่นกัน มีทั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด ระบบตรวจจับผู้ใช้ทางเท้า ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ไฟสูงอัตโนมัติ ระบบครูสคอนโทรลแปรผัน ตลอดจนกล้องมองภาพรอบคัน เป็นต้น
มองในภาพรวม Honda Freed ถือเป็นรถที่น่าใช้งานพอสมควร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถมินิเอ็มพีวีใช้งานสะดวกสบาย ผู้โดยสารทั้งเด็กและคนสูงอายุสามารถขึ้นและลงจากรถด้วยประตูสไลด์ที่อำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ราคาจำหน่ายคือปัจจัยสำคัญถ้าบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ตัดสินใจนำรถรุ่นนี้กลับเข้ามาขายอีกครั้ง หากเริ่มต้นที่ 7 แสนกลาง ๆ เหมือนกับคู่แข่งอย่าง Sienta ก็ถือว่าน่าลุ้นเลยทีเดียว
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}