เหตุใดค่ายรถจากจีนหมกมุ่นกับการสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

Nio (นีโอ) เพิ่งประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญหลังลูกค้าเข้ามาใช้บริการสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในจีนทะลุหลัก 4 ล้านครั้ง

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมสัญชาติจีนแนะนำสถานีสลับแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า Power Swap ทั่วประเทศจีนตั้งแต่กลางปีที่ และเมื่อถึงวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการสลับแบตเตอรี่มากกว่า 4 ล้านครั้งจากสถานีที่มีทั้งหมด 504 แห่งทั่วแดนมังกร

ถึงแม้ Nio จะยังไม่ใช่แบรนด์ระดับโลกหรือมีชื่อเสียงในวงกว้าง แต่การสลับแบตเตอรี่เป็นบริการที่พวกเขาให้ความสำคัญอย่างมากและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้เหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน

เตรียมขยายสถานีสลับแบตเตอรี่สู่ภูมิภาคยุโรป

Nio เพิ่งเปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า Nio ES8 ออกทำตลาดนอร์เวย์เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเผยโฉมตัวรถพร้อมกับการเปิดตัว Nio House โชว์รูมระดับแฟล็กชิพในกรุงออสโลที่เป็นการผสมผสานคาเฟ่และโคเวิร์กกิ้งสเปซให้ลูกค้ามานั่งพักผ่อนหรือใช้บริการด้วย

ลูกค้า Nio ยังมีอ็อปชั่นการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่รวมแบตเตอรี่ แต่เป็นการเช่าซื้อแบตเตอรี่แทนซึ่งทำให้ราคาจำหน่ายตัวรถย่อมเยาลง

การเปิดให้เช่าซื้อแบตเตอรี่มาพร้อมกับบริการสลับแบตเตอรี่ที่ทาง Nio วางแผนไว้ว่าจะเปิดทำการสถานี Power Swap แห่งแรกในกรุงออสโลภายในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่จะขยายไปสู่เป้าหมายทั้งหมด 20 แห่งภายในช่วงปลายปี 2022

อเล็กซานเดอร์ ชวาร์ซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nio Europe กล่าวว่า “วันนี้ ผู้ใช้รถชาวยุโรปจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Nio ด้วยบริการต่าง ๆ มากมายทั้ง Nio House ที่มีพื้นที่ 2,100 ตารางเมตร การสลับแบตเตอรี่ และการเช่าซื้อแบตเตอรี่ที่ช่วยให้ผู้ใช้คลายความกังวล”

นอกจาก Nio แล้ว Geely ก็เพิ่งประกาศว่าจะขยายสถานีสลับแบตเตอรี่ที่มีชื่อว่า E-Energee ให้ได้ถึง 5,000 แห่งทั่วประเทศจีนภายในปี 2025

แผนการขยายเครือข่ายสถานีแบตเตอรี่ของ Geely เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2017 มีทีมนักวิจัยและพัฒนามากกว่า 1,000 คนทำงานในโปรเจคต์นี้ สถานีสลับแบตเตอรี่แห่งแรกเปิดให้บริการแบบทดลองใช้ในเมืองฉงชิ่งตั้งแต่เดือนกันยายน 2020

ทำไมค่ายรถจีนถึงหมกมุ่นกับการสลับแบตเตอรี่

Tesla เคยนำเสนอไอเดียการสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2013 โดยเคลมว่าสามารถสลับแบตเตอรี่ใน Tesla Model S ได้ภายในเวลาเพียง 90 วินาที แต่สุดท้ายค่ายรถอีวีจากสหรัฐอเมริกาก็ยกเลิกโปรเจคต์นี้แล้วหันไปมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายจุดชาร์จไฟ Supercharging แทน

แต่ค่ายรถจีนยังคงเดินหน้าเต็มตัวในการนำเสนอบริการสลับแบตเตอรี่ หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือ พวกเขามั่นใจว่าจะเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานได้มาก เนื่องจากมีความรวดเร็วกว่าการเสียบปลั๊กชาร์จไฟตามปกติหลายเท่าตัว

รายงานข่าวจากแดนมังกรระบุด้วยว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ผู้บริโภคชาวจีนซื้อรถ Nio แทนที่จะเป็น Tesla ก็เพราะแบรนด์รถเจ้าถิ่นให้บริการสลับแบตเตอรี่ควบคู่กับจุดชาร์จไฟด่วน ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากกว่าและสะดวกสบายยิ่งกว่า 

เมื่อต้องการใช้งานการสลับแบตเตอรี่  ผู้ใช้รถยนต์ Nio หรือ Geely ต้องมีแอพพลิเคชั่นเพื่อระบุสถานีที่ต้องการเข้าไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ เมื่อขับขี่รถไปถึงสถานีที่มีลักษณะคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ ผู้ขับขี่ก็แค่ขับเข้าไปด้านในเพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้นสำหรับรถอีวี Geely และ 3 นาทีสำหรับรถอีวีของ Nio 

อย่างไรก็ตาม มียูทูบเบอร์หลายคนทำการรีวิวการใช้บริการสลับแบตเตอรี่แล้ว พบว่าระยะเวลาการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 11 - 13 นาทีเมื่อรวมระยะเวลารอเข้ารับบริการด้วย 

ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินตามกิโลวัตต์ชั่วโมงที่ต้องการ อาทิ หากแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่มีพลังงานเหลือที่ 20% ผู้ใช้ก็จ่ายเงินเพิ่มตามพลังงานที่ต้องการอีก 80% ก็จะได้แบตเตอรี่เต็ม 100% โดยเฉลี่ยแล้วจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 340 บาท

แน่นอนว่าบริการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้อย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจะทำให้การบริหารจัดการมีความยุ่งยากมากขึ้น การออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าก็มีความซับซ้อนกว่าเดิม และต้องใช้ต้นทุนสูงขึ้นด้วย