เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน ได้รับการประดับยศอัศวิน หลังชวดสร้างประวัติศาตร์แชมป์ F1 แบบพิศวง

ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 7 สมัย ได้รับพระราชทานยศอัศวินจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่พระราชวังวินด์เซอร์ หลังชวดแชมป์อย่างน่าเจ็บใจ

แฮมิลตัน เสียบัลลังก์แชมป์โลกให้แก่นักขับชาวดัตช์ แม็กซ์ เวอร์สแตปเปน ซึ่งคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกหลังจบการแข่งขันกรังด์ปรีซ์สนามสุดท้ายที่กรุงอาบูดาบี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เวอร์สแตปเปน ได้แซงนักแข่งชาวอังกฤษในรอบสุดท้ายหรือรอบที่ 58 ท่ามกลางความสับสนว่าการแซงรถเซฟตี้คาร์ (Safety Car) ขณะที่รถวิ่งอยู่ในสนามนั้นถูกต้องหรือไม่ ทางฝั่ง Mercedes ได้ทำการประท้วงว่าการที่ เวอร์สแตปเปน แซงแฮมิลตันนั้นผิดกฎและคิดว่า แฮมมิลตัน คงจะชนะหากรถที่โดนน็อครอบไม่แซงรถเซฟตี้คาร์ก่อนที่จะมีการรีสตาร์ท

สื่อต่างประเทศบางสำนักมองว่า การแต่งตั้งยศอัศวินของแฮมิลตันหลังพ่ายแพ้ไม่กี่วันเป็นเหมือนรางวัลปลอบใจเสียมากกว่า

ท้ายที่สุด ไมเคิล มาซี่ ผู้อำนวยการแข่งขันเป็นคนที่จะต้องรับผิดชอบที่สุดถึงผลการแข่งขันซึ่งเขาเป็นคนบอกให้รถที่โดนน็อครอบไปแล้วสามารถแซงรถเซฟตี้คาร์ได้ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดราม่าที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 และทำให้รอบสุดท้ายต้องเป็นที่ถกเถียงกันชั่วค่ำคืน

เซอร์ แฮมิลตัน กำลังเดินตามรอยของแจ็ค บราแบม, แฟรงก์ วิลเลียมส์ และ แจ๊คกี้ สจ๊วต ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อปี 1978, 1999 และ 2001 นอกจากนี้ เซอร์ แฮมิลตัน จะไม่ไปรวมงาน FIA Prize Giving ที่จะมีการมอบรางวัลอันดับสองให้แกเขาอีกด้วย แต่แฮมิลตัน จะเป็นกระบอกเสียงใน โซเชียล มีเดีย (Social Media) พูดเรื่องของการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ในขณะที่ Hamilton เองก็นั่งเจ็ทไปรอบโลกและแข่งรถรวมถึงยังรับเป็นายแบบให้แบรนด์เสื้อผ้า (กิจกรรมทั้งหมดล้วนก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์) แต่อย่างไรก็ตามถ้าการได้รับเลือกให้แต่งตั้งยศอัศวินใช้เกณฑ์แค่ว่าเป็นนักแข่งที่เก่งก็คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า แฮมิลตัน แล้วละตอนนี้