บุกเกาะ! Hongqi จากจีนเปิดโชว์รูมแห่งแรกในญี่ปุ่น แต่จะขายได้ไหม?

Hongqi แบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมจากจีนรุกตลาดประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว หลังเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการแห่งแรก พร้อมจำหน่ายรถซีดาน Hongqi H9 เป็นรุ่นบุกเบิก

โชว์รูมแห่งแรกของ Hongqi ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ภายใต้เครือ FAW Group Corp. ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจสำคัญอย่างนัมบะใจกลางนครโอซาก้า เพิ่งเปิดให้บริการลูกค้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา

หน่วยงานรัฐบาลของเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลินซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ FAW Group Corp. ระบุว่า “ผู้คนในเมืองฉางชุนและทั่วประเทศจีนมีความภาคภูมิใจในแบรนด์ Hongqi อย่างยิ่ง การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นคือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่”

อ่านเพิ่มเติม: พาชมรอบคัน 2021 Hongqi H9 ซูเปอร์พรีเมียมจากจีนจ่อลุยตลาดญี่ปุ่น แต่จะขายได้ไหม?

ประตูบานใหญ่เปิดแล้ว

ตลาดรถยนต์ของญี่ปุ่นขึ้นชื่อลือชาอย่างยิ่งว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก แบรนด์เจ้าถิ่นครองผู้นำตลาดอย่างเหนียวแน่นมั่นคงและถือเป็นเรื่องยากยิ่งที่แบรนด์ต่างชาติจะเจาะเข้ามาได้ แต่การเปิดโชว์รูมแห่งแรกในนครโอซาก้าแสดงให้เห็นว่าค่ายรถจากจีนมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะทำตลาดรถยนต์แดนอาทิตย์อุทัย

โชว์รูมของ Hongqi ในญี่ปุ่นจะนำเสนอ H9 เป็นรุ่นแรก รถซีดานพรีเมียมโมเดลนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาวีไอพีและนักการเมืองของจีน สนนราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 5.5 – 11.5 ล้านเยนหรือประมาณ 1.6 – 3.3 ล้านบาท

หลังจากทำตลาด H9 แล้ว Hongqi ยังมีแผนการนำเสนอรถเอสยูวีรุ่นใหม่ในปีหน้า พร้อมวางเป้าหมายเปิดโชว์รูมแห่งต่อไปในกรุงโตเกียวเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยรถยนต์ทุกรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นนั้นนำเข้ามาจากโรงงานในประเทศจีน

สำนักข่าว Asahi รายงานว่า ปัจจุบัน ตลาดรถยนต์นำเข้าในญี่ปุ่นมีสัดส่วนประมาณ 10% ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไว้วางใจรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ แต่รถยนต์นำเข้านั้นช่วยสร้างความตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาให้แก่ตลาดรถแดนซามูไร

ผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่งกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของแบรนด์คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในประเทศ

“ความสำเร็จของ Hongqi ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะค้นหากลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ของพวกเขาจริง ๆ จนสามารถควักกระเป๋าจ่ายได้” ผู้บริหารที่ไม่เปิดเผยนามกล่าวกับสำนักข่าว Asahi

การส่งออกรถยนต์จากจีนมาสู่ญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า ค่ายรถแดนมังกรมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรุกตลาดระดับโลก โดยก่อนหน้านี้พวกเขามีการส่งออกรถบัสพลังงานไฟฟ้ามาแล้ว

สำนักข่าว Asahi ระบุด้วยว่า ญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นสัดส่วนเกือบ 25% ในปี 2020 โดยสินค้าที่ถูกนำเข้ามากขึ้นเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรทัศน์ และสมาร์ทโฟน ทำให้บริษัทญี่ปุ่นต้องยกระดับเทคโนโลยีของตนเองเพื่อแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น