ทำไมบริษัทรถยนต์ต้องใช้ “ศพมนุษย์” ทดสอบการชนเพื่อพัฒนาความปลอดภัย

นับตั้งแต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งแรกของโลกเกิดขึ้นในปี 1896 ความปลอดภัยด้านยานยนต์ได้ถูกพัฒนาเพื่อสร้างความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง

ตามบันทึกประวัติศาสตร์ คนเดินถนนคนแรกที่ถูกรถชนจนเสียชีวิตมีชื่อว่าบริดเจ็ท ดริสคอลล์ สตรีชาวอังกฤษวัย 44 ปี อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีความตื่นตัวและเริ่มตระหนักว่ายานพาหนะติดเครื่องยนต์นั้นมีอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่ารถเทียมม้าหลายเท่าตัว

ช่วงต้นทศวรรษที่ 20 บริษัทรถยนต์เริ่มแข่งขันกันคิดค้นวิจัยระบบความปลอดภัย นำมาซึ่งการทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับแรงชนปะทะและผลกระทบที่มีต่อผู้โดยสาร

เริ่มทดสอบการชน

ยิ่งมีจำนวนรถยนต์เพิ่มขึ้นบนถนนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุการชนกันมากขึ้นเท่านั้น บริษัทรถยนต์จึงเริ่มทำการทดสอบการชนปะทะเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถ

ช่วงทศวรรษที่ 1930 เริ่มมีการใช้ “ศพมนุษย์” ในการทดสอบความปลอดภัยด้านยานยนต์ เมื่อนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเวนย์ สเตทในเมืองดีทรอยท์ของสหรัฐอเมริกา ทำการโยนศพมนุษย์ลงในช่องลิฟท์ เพื่อทดสอบความแข็งแรงของกระโหลกศีรษะมนุษย์

ลอว์เรนซ์ แพทริค หัวหน้าทีมนักวิจัยในขณะนั้นของมหาวิทยาลัยเวนย์ สเตท พบว่ากระโหลกศีรษะมนุษย์สามารถทนแรงกดกระแทกได้สูงถึง 1 ตันครึ่งในช่วงเวลา 1 วินาที  นอกจากนี้ยังมีการทดสอบด้วยการใช้ของมีคมเสียบหน้าอก การอัดกระแทกที่หัวเข่าหรือกระดูกสันหลังเพื่อหาผลลัพธ์ว่ามนุษย์ทนทานต่อแรงกระทำมากน้อยเพียงใด เมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็สามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาระบบป้องกันในรถยนต์

การทดสอบการชนด้วยการใช้ศพมนุษย์ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้งมากขึ้นจนถึงขั้นที่ว่านักวิจัยไม่สามารถหาศพมนุษย์ได้มากเพียงพอต่อการทดสอบ พวกเขาจึงเริ่มใช้สัตว์ทดลองแทน

ช่วงทศวรรษที่ 1950 หมูที่ถูกวางยาสลบถูกนำมาใช้แทนมนุษย์ เหตุผลง่าย ๆ ที่ใช้หมูเป็น ๆ ก็เพราะมีราคาถูก หาง่าย และมีโครงสร้างอวัยวะภายในคล้ายมนุษย์ หมูจึงกลายเป็น “หุ่นดัมมี่” ทดแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสิทธิสัตว์ถูกพูดถึงอย่างร้อนแรงในช่วงทศวรรษที่ 1980 การทดสอบความปลอดภัยในรถยนต์ด้วยการใช้สัตว์ทดลองจึงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ก่อนหน้านั้น กองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกายังเคยใช้มนุษย์ในการทดสอบอากาศยาน บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์คือดร. จอห์น พอล สแต็พ ศัลยแพทย์ที่ยอมเสียสละเป็น “หุ่นดัมมี่” เพื่อทำการทดสอบการออกตัวและลงจอดของเครื่องบินรุ่นต้นแบบด้วยตนเอง

ดร.สแต็พถูกนำมานั่งอยู่ในแท่นเลื่อนปล่อยเครื่องบินรุ่นต้นแบบที่มีการเร่งจาก 0 – 1017 กม.ต่อชม. ภายในเวลา 5 วินาที ก่อนที่จะเบรกจนหยุดสนิทภายใน 1.4 วินาทีเท่านั้น การเคลื่อนที่อย่างรุนแรงสุดขั้วทำให้ร่างกายของดร.สแต็พต้องรับแรงกดดันถึง 4 ตันในเสี้ยววินาที ทำให้ซี่โครงหักหลายซี่ ตาบอดชั่วขณะ ข้อมือหัก และมีอาการบาดเจ็บทั่วร่างกาย

ถึงแม้การเสียสละของดร.แสต็พจะทำให้กองทัพอากาศของสหรัฐมีแสนยานุภาพเพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงเรียกร้องให้ใช้หุ่นทดสอบแทนมนุษย์จริง

นั่นทำให้มีการพัฒนาหนึ่งในหุ่นดัมมี่ทดสอบตัวแรกของโลกที่มีชื่อว่า Sierra Sam ในปี 1949 และความสำเร็จของหุ่นดัมมี่ตัวแรกนี้เองที่ทำให้มีการพัฒนาหุ่นทดสอบที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ก่อนถูกใช้งานอย่างแพร่หลายโดยบริษัทรถยนต์ทั่วโลก ความจำเป็นในการใช้สัตว์ที่ยังมีชีวิตหรือศพมนุษย์ก็ลดน้อยถอยลงไป

แต่ทำไมยังมีการใช้ศพมนุษย์ทดสอบความปลอดภัย

ในปี 1993 มีการเปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กในประเทศเยอรมนีใช้ศพมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 200 ศพในการทดสอบการชนในรถยนต์

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กชี้แจงว่าการใช้ศพมีความจำเป็นต่อการศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายหลังเกิดอุบัติเหตุ และจะช่วยปกป้องชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน

“การใช้ศพเด็กมาทดสอบเช่นนี้จะช่วยปกป้องเด็กคนอื่น ๆ ได้ในอนาคต” ดร. ไรเนอร์ แมทเทิร์น อดีตหัวหน้าภาควิชานิติพยาธิวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กกล่าว

คำกล่าวอ้างดังกล่าวสอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยเวนย์ สเตท ที่เคยตีพิมพ์ในปี 1995 ระบุว่า การทดสอบการชนและการวิจัยความปลอดภัยในยานยนต์ด้วยการใช้ศพมนุษย์สามารถลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนได้ถึง 8,500 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับ จอร์จ พาร์กเกอร์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยงานความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกาหรือ NHTSA ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากการทดสอบการชนกับศพมนุษย์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม

“การใช้ร่างกายมนุษย์เพื่อทดสอบยังมีความจำเป็นต่อการรวบรวมข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบกับหุ่นดัมมี่ หากคุณไม่ทำการทดสอบเช่นนี้ คุณจะไม่สามารถประเมินขีดจำกัดของหุ่นดัมมี่ในการทดสอบการชนได้” พาร์กเกอร์ กล่าวเพิ่มเติม

แต่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีอย่าง ADAC แสดงความไม่เห็นด้วย โดยระบุว่าในยุคที่สังคมตั้งคำถามถึงการใช้สัตว์มาทดลองทางวิทยาศาสตร์ การทดสอบความปลอดภัยในรถยนต์ควรใช้หุ่นดัมมี่ ไม่ใช่ศพมนุษย์

นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามว่าผลการทดสอบกับศพมนุษย์นั้นไม่สามารถหาได้จากหุ่นดัมมี่จริงหรือ และครอบครัวของผู้บริจาคร่างกายนั้นยินยอมที่จะให้ศพของคนที่รักไปถูกทดสอบการชนหรือไม่ เนื่องจากมีรายงานว่านักวิจัยของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จะปกปิดชื่อของผู้เสียชีวิตที่บริจาคร่างกายไว้เป็นความลับ ไม่มีการบอกญาติของผู้เสียชีวิตว่าจะทำการทดสอบเมื่อไหร่ และทดสอบอะไร

ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากประเด็นด้านจริยธรรม การใช้ศพมนุษย์ทดสอบความปลอดภัยในยานพาหนะนั้นมีจุดด้อยเช่นกัน เนื่องจากศพมนุษย์แต่ละรายนั้นมีรูปร่างแตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลที่มีมาตรฐานสมบูรณ์ได้ และแต่ละศพก็จะถูกใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น 

นอกจากนี้ ศพมนุษย์ที่ถูกบริจาคมาเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นมักเป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุมากจึงมีร่างกายและกระดูกเปราะบาง โดย NHTSA ระบุว่าอายุเฉลี่ยของศพที่ถูกใช้ทดสอบนั้นอยู่ที่ 72 ปี ส่วนศพที่อายุน้อยนั้นมักเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และสภาพศพมักไม่เหมาะสมสำหรับการวิจัย

อ่านเพิ่มเติม: เผยเบื้องหลัง “ศพมนุษย์” ถูกใช้ทดสอบการชนบนเส้นขอบจริยธรรม

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
May

นักเขียนอาวุโส

อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเ...

พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Honda CR-V

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดเบื้องหลังการซ่อมตัวถังรถหรูในไทย วิธีพ่นและอบสีร้อน ไม่กระทบแบต Hybrid เหมือนใหม่จากโรงงาน

เปิดดูเบื้องหลังศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังของ Mercedes-Benz ในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยอบสีรถ ไม่กระทบกับระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ใหม่ ศูนย์บริการของ Mercedes-Benz ที่รับซ่อมตัวถังได้ด้วย มีไม่กี่แห่งในไทย หนึ่งในนั้นอยู่ที่ชลบุรี เป็นสาขาใหม่ของ เบนซ์ไพรม์มัส ที่อำนวยความสะดวกคนอยู่ต่างจังหวัด และอยากซ่อมตัวถังกับศูนย์ที่ได้มาตรฐานแบบโรงงานผู้ผลิต เรามาดูกันว่าเบื้องหลังการซ่อมนี้ จะใกล้เคียงของเดิมจากโรงงานแค่ไหน ศูนย์บริการเบนซ์ไพรม์มัสสาขาใหม่ที่ชลบุรีนี้ รองรับงานซ่อมสี และตัวถัง เดือนละ 1

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ