หลายคนอาจเคยสงสัยหรืออาจไม่เคยเห็นกันว่า รถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงหรือไฮเปอร์คาร์ เขาใช้ช่วงล่างกันแบบไหน
จริง ๆ แล้วรถยนต์พวกนี้นั้นใช้ช่วงล่างที่ค่อนต่างจากรถยนต์ปกติ เป็นแบบที่เรียกว่า Push Rod เราจะพาไปดูกันว่ามันเป็นอย่างไร และจะดีแค่ไหน เพราะเขายังใช้ใน F1 อีกด้วย
เอาเข้าจริงแล้ว ช่วงล่าง Push Rod ก็ไม่ได้แตกต่างจากช่วงล่างธรรมดามาก เพราะมันก็มีหน้าที่ดูดซับแรงสะเทือนจากล้อ
ที่จะต่างกันคือ การเคลื่อนที่ของสปริงและโช้คอัพ ซึ่งในรถทั่วไปจะมีการเคลื่อนที่แบบขึ้นลงตามล้อ แต่เมื่อเป็น Push Rod แล้ว จะมีการเคลื่อนที่ไปในแนวระนาบแทน (ซ้าย-ขวา หรือ หน้า-หลัง)
อ่านเพิ่มเติม ทำไมรถยนต์ถึงเสียงดัง? พร้อมวิธีแก้
การเคลื่อนไหวนี้ จะอาศัยชิ้นส่วนเรียกว่า ร็อคเกอร์ อาร์ม (Rocker Arms) ซึ่งมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม และมีจุดหมุนที่ถูกยึดอยู่กับตัวถัง
โดยจะทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทางของแรงจากแนวตั้ง (การเคลื่อนที่ของล้อ) ให้มาอยู่ในแนวระนาบ (การเคลื่อนที่ของสปริงและช็อค-อัพ)
แน่นอนว่าเมื่อมันถูกใช้งานโดยรถแข่ง F1 และเหล่าซูเปอร์คาร์แล้ว มันจะต้องมีข้อดีอยู่บ้าง
การใช้ช่วงล่าง Push Rod นั้น เป็นการนำเอาสปริงและโช้คอัพ ยัดเข้าไปในตัวถังของรถ ทำให้กระแสลมสามารถไหลผ่านบริเวณปีกนกได้อย่างสะดวก มีความราบเรียบหรือที่เรียกว่า ลามินา โฟลว์ (Laminar Flow)
เมื่อลมไหลเป็นระเบียบ ก็ง่ายต่อการออกแบบระบบดูดอากาศเข้าเครื่องยนต์ รวมถึงการคำนวณแรงกดในส่วนด้านหลังของตัวรถด้วย
ถือเป็นข้อดีสำหรับการของฟอร์มูล่า ที่จะใช้ Push Rod ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ปกติแล้วโช้คอัพรถยนต์ทั่วไปจะถูกเชื่อมต่อโดยตรงกับล้อ นั่นคือถ้าล้อเคลื่อนที่ขึ้นเท่าไร ตัวกระบอกโช้คอัพก็จะยุบตัวตามในปริมาณที่เท่ากัน หรือใกล้เคียงกัน
ในกรณีของ Push Rod แนวการเคลื่อนที่ของล้อและโช้คอัพ-สปริง ไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกัน คือโช้คจะไม่ยุบตัวตามการเคลื่อนที่ของล้อ
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระยะและองศาของร็อคเกอร์ อาร์ม ที่เราสามารถปรับแต่งระยะได้อย่างอิสระ ทำให้โช้คอัพทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
น้ำหนักใต้สปริง คือน้ำหนักของชิ้นส่วนช่วงล่างที่อยู่ใต้สปริงทั้งหมด ได้แก่ ล้อ, ยาง, ลูกปืน, จานเบรก, คาลิปเปอร์, ปีกนก , เพลาขับ, ข้อต่อต่าง ๆ รวมไปถึงสปริงและโช้คอัพ
ช่วงล่าง Push Rod ที่ได้นำสปริงและโช้คอัพเข้าไปไว้ในบอดี้ น้ำหนักใต้สปริงจึงน้อยกว่า มีความเบา ทำให้มีการตอบสนองของช่วงล่างสั้นลง ไม่เกิดอาการสั่น
มันมีข้อเสียอย่างหนึ่ง คือหากตัว Rocker Arm นั้นหากมีความแข็งไม่เพียงพอ การตอบสนองของช่วงล่างก็จะไม่แม่นยำเหมือนเดิม
ยังมีจุดหมุของร็อคเกอร์ อาร์ม ที่จะรับภาระและแรงเสียดทานจากล้อโดยตรง จึงอาจทำให้เกิดการสึกหรอได้ง่าย ต้องดูแลบ่อย
หากจะถามว่า รถยนต์ธรรมดาสามารถติดตั้งช่วงล่างแบบนี้ได้หรือไม่? ก็สามารถทำได้ แต่เนื่องจากรถปกติไม่ต้องการทำความเร็วหรือทำเวลาขนาดนั้น จึงอาจไม่จำเป็นที่จะทำก็ได้ และในไทยเองยังมีไม่กี่ที่นักที่สามารถทำได้ครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}