คลายปริศนาทำไม Lotus ตั้งชื่อรถด้วยตัว E นำหน้าเสมอ มาจากเหตุที่เกือบจะขายหน้าตลอดกาล

ทำไม Lotus ตั้งชื่อรถด้วยตัว E นำหน้าเสมอ คลายปริศนาจากเหตุที่เกือบจะขายหน้าตลอดกาลของรุ่น 11 ที่เลขโรมันพ้องเสียงกับคำศัพท์อังกฤษในความหมายไม่ดีนั่นเอง

• เรื่องวุ่น ๆ ของการตั้งชื่อ
• เดิมทีไม่มีตัว E
• ชื่อรุ่นที่น่าอับอาย
• เปลี่ยนมาใช้ E ครั้งแรก
• คำศัพท์ E ตรงกันพอดี
• เป็นที่จดจำไปแล้ว

เรื่องวุ่น ๆ ของการตั้งชื่อ

แบรนด์รถ Lotus (โลตัส) ก่อตั้งโดย Colin Chapman ซึ่งคำถามที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกใช้ดอกบัวเป็นชื่อรถ ก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะความลับเรื่องที่มาของชื่อแบรนด์นี้ ได้ตายไปพร้อมกับตัวเขาเองแล้ว แต่ความวุ่นวายเรื่องการตั้งชื่อยังไม่ได้มีแค่ชื่อยี่ห้อเท่านั้น ยังมีการตั้งชื่อรุ่นที่จะต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัว E เท่านั้น โดยรายชื่อรุ่นรถที่ออกมาไม่ว่าจะเป็น รถสปอร์ตขนาดเล็ก Elise หรือรถสปอร์ตขนาดใหญ่ Esprit จนถึงเอสยูวีพลังไฟฟ้าที่ฉีกแนวจากกลุ่มตลาดเดิมมากที่สุด ก็ยังใช้ชื่อว่า Lotus Eletre (โลตัส อิเลเทอร์) ซึ่งธรรมเนียมการตั้งชื่ออย่างนี้มีที่มาน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เดิมทีไม่มีตัว E

ผู้ก่อตั้ง Lotus มีรสนิยมทางมอเตอร์สปอร์ต เขาต้องการสร้างรถของตัวเองเพื่อที่เขาจะได้ซิ่งในสนามแข่ง จุดเริ่มต้นคือการไปหยิบยืมแชสซีส์ของรถเก๋ง Austin 7 ในปี 1928 เกิดเป็นรถแข่ง Lotus Mark I โดยนาย Chapman เลือกที่จะเขียนด้วยเลขโรมัน อันเป็นพื้นฐานการตั้งชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในยุคนั้น ตามด้วย Mark II, Mark III เรียงต่อกันมาจนถึงปี 1956 เมื่อ Lotus กำลังจะเปิดตัวโมเดลที่ 11 ของเขาก็เกิดปัญหาขึ้น

ชื่อรุ่นที่น่าอับอาย

Lotus โมเดลที่ 11 ถ้าอิงตามระบบการตั้งชื่อแบบเดิม ก็ควรจะเรียกว่า Lotus Mark XI ซึ่งทำให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ก็เดาทางได้ และพากันพาดหัวข่าวคาดการณ์เปิดตัวของรุ่น 'Lotus XI' ซึ่งอักษรโรมันตัวนี้ ถูกอ่านเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษว่า เอ็กซไอ

การทีเลขโรมันถูกอ่านเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษนี้ มีหลายคนวิเคราะห์ไปว่า นี่คืออีกสาเหตุของการเปลี่ยนชื่อ เพราะไปพ้องเสียงคำว่า Exile ซึ่งแปลว่าเนรเทศหรือทอดทิ้ง ทำให้เกิดกระแสไม่ดีก่อนการเปิดตัว ซึ่งน่าจะมีหลายคนในโลตัสได้สังเกตข้อเท็จจริงนี้ แม้จะไม่มีบันทึกหลักฐานว่ามีใครเคยเรียกชื่อแบบนั้นออกสู่สาธารณะก็ตาม

ดังนั้นในเมื่อนักข่าวต่างก็เดาทางชื่อรุ่นออก และมีสาเหตุคำพูดชื่อรุ่นที่พ้องกับคำศัพท์ความหมายน่าขบขันอย่างนี้ ทำให้ Lotus ละทิ้งการกำหนดชื่อในระบบ 'Mark' และคิดเปลี่ยนชื่อใหม่ ก่อนที่จะเกิดความอับอายตอนเปิดตัว

เปลี่ยนมาใช้ E ครั้งแรก

การตั้งชื่อรุ่นที่สิบเอ็ดแม้จะเลี่ยงไม่เขียนเลขโรมันแบบ XI เปลี่ยนมาใช้วิธีเขียนเลขอารบิค 11 ก็แล้ว แต่ยังไม่วายเกิดปัญหาความสับสนระหว่างตัวเลขโรมันและอารบิก เนื่องจากเลขอารบิก '11' เกือบจะเหมือนกันทุกประการกับเลขโรมัน 'II' ทำให้นาย Chapman จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากตัวเลข 11 เป็นการสะกดคำ ดังนั้นรถยนต์ที่ควรจะใช้ชื่อว่า Mark XI จึงกลายเป็น Lotus Eleven นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : ลือกระหึ่ม Lotus เตรียมคัมแบ็คอาเซียน มาเลเซียเปิดรับจอง Evija ส่วนไทยลือเปิดตัวครึ่งปีหลัง

คำศัพท์ E ตรงกันพอดี

ในตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจเริ่มกลยุทธ์การตั้งชื่อด้วยตัว E นำหน้า เพราะหลังจากนั้นเขาก็มีรถสปอร์ตรุ่นเล็กชื่อ Seven ออกขาย แต่หลังจากนั้นในปีต่อมา เขาเริ่มคิดการใหญ่ ทำรถสปอร์ตที่มีความหรูหรา วัสดุดี ขับสบาย โดยคัดเลือกแต่กลุ่มลูกค้าระดับไฮโซ โดยตั้งชื่อว่า Elite ซึ่งตั้งใจให้หมายถึงพวกผู้ดีชาวอังกฤษโดยเฉพาะ และดันบังเอิญไปคล้องกับตัว E ในรุ่น Eleven ก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้เกิดไอเดียที่จะตั้งชื่อรถด้วยตัว E นำหน้าเรื่อยมา

อ่านเพิ่มเติม : ชมบูท Lotus โชว์ Elise Sport 220/Exige Sport 350 ล็อตสุดท้าย พร้อมเปิดจอง Emira รถน้ำมันรุ่นสุดท้ายของโลตัส

เป็นที่จดจำไปแล้ว

ภายหลังจากการขายรุ่น Seven ยุติลง รถยนต์ Lotus ก็ใช้ชื่อรุ่นนำหน้าด้วยตัว E มาตลอด (ยกเว้นรุ่น 340R แบบลิมิเต็ดในปี 2000) จนกลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ เหมือนเป็นเครื่องแบบของแบรนด์นี้ ที่ทำให้คนจดจำได้ถึงความรุ่งเรืองของรถแข่งดังในอดีต เรื่อยมาจนถึงเอสยูวีคันใหญ่พลังไฟฟ้าล้วนในชื่อ Eletre ที่นอกจากจะสอดคล้องกับบธรรมเนียมตัว E เดิมแล้ว ยังสอดคล้องกับความเป็น Electric แห่งยุคอนาคตอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : เหตุใด 2022 Lotus Emira หันไปใช้เครื่อง Mercedes- AMG แทนของ Toyota