2023 Suzuki Grand Vitara เปิดตัวโชว์หน้าหล่อครั้งแรกในโลก ขุมพลังไฮบริดประหยัดสุด

2023 Suzuki Grand Vitara (2023 ซูซูกิ แกรนด์ วิทาร่า) เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศอินเดีย พร้อมเตรียมทยอยออกจำหน่ายทั่วโลก เมืองไทยต้องตามลุ้นกันยาว ๆ

Grand Vitara เจนเนอเรชั่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้เป็นแฝดคนละฝากับ Toyota Hyryder ซึ่งเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ทาง Suzuki ตั้งใจสานต่อชื่อรุ่นรถเอสยูวีระดับตำนานให้โลดแล่นในตลาดอย่างต่อเนื่องหลังจากสร้างชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980

ถึงแม้ยังไม่มีการยืนยันการจำหน่ายในเมืองไทย แต่รถเอสยูวีรุ่นนี้ก็มีหน้าตาและคุณสมบัติที่พร้อมชนะใจลูกค้าในบ้านเราได้ไม่ยาก ไปชมกันว่ามีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด

รูปลักษณ์หล่อใช้ได้

2023 Suzuki Grand Vitara มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เฉียบคม กระจังหน้าทรงกว้าง ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมและเปียโนแบล็ก ไฟหน้า LED แบบแยกส่วนเสริมลุคดุดัน ไฟท้าย LED มีแถบเชื่อมต่อซ้าย-ขวาตามสมัยนิยม ขณะที่ล้ออัลลอยเป็นแบบทูโทน

การออกแบบด้านข้างขับเน้นตัวถังแบบรถอเนกประสงค์เอสยูวี กระจกบังลมรอบคันมีขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งในห้องโดยสาร ตัวรถยกสูงพอสมควรเพื่อรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ

เปิดประตูเข้ามาชมภายใน บนเพดานมีพาโนรามิกซันรูฟ คอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ Smart Play Pro Plus แบบลอยตัวขนาด 9 นิ้ว ชุดมาตรวัดฟูลดิจิทัลครั้งแรกในรถยนต์ Suzuki พร้อมด้วยเฮดอัพดิสเพลย์ และกล้องมองภาพ 360 องศาถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน

สำหรับพวงมาลัย ช่องแอร์ และระบบควบคุมปรับอากาศเหมือนกับฝาแฝดอย่าง Toyota Hyryder แบบเป๊ะ ๆ เลยทีเดียว

เช่นเดียวกับขุมพลังขับเคลื่อน Suzuki หยิบยืมมาจาก Toyota โดยเป็นระบบไฮบริด เครื่องยนต์ 4 สูบ Atkinson cycle ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 92 แรงม้า แรงบิด 122 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 79 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร พละกำลังรวมทั้งหมดอยุ่ที่ 114 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ eCVT

จุดเด่นของ Grand Vitara รุ่นใหม่ยังอยู่ที่ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ทำได้ไกล 25 กม. อัตราบริโภคน้ำมันประหยัดสุด ๆ 27.97 กม.ต่อลิตร

ขณะเดียวกัน รถเอสยูวีรุ่นนี้ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ไมลด์ไฮบริด 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรให้เลือกสรรอีกด้วย โดยมีกำลังสูงสุด 103 แรงม้า แรงบิด 117 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Grip AWD ซึ่งกินน้ำมัน 19.38 กม.ต่อลิตร

ระบบความปลอดภัยพื้นฐานประกอบด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วบนทางลาดชัน กล้องมองภาพด้านหลังพร้อมระบบแจ้งเตือน และระบบตรวจจับแรงดันลมยาง โดยไม่มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติแต่อย่างใด