ชนิดของจานเบรก และการเลือกใช้ที่ถูกต้อง

ชนิดของจานเบรก และการเลือกใช้ที่ถูกต้อง

คนเราเวลาซื้อรถใหม่ ก็มักจะหาของแต่งมาเพิ่มเติมความสวย ความแรง เช่น สเกริ์ตหน้า, สเกริ์ตข้าง เปลี่ยนกรองอากาศ หรือเปลี่ยนท่อไอเสียเพื่อให้เสียงเพราะขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ระบบเบรก นั่นเองครับ เพราะมันเป็นสิ่งชี้ชะตาชีวิตของผู้ขับขี่ได้เลย เนื่องจากถ้ารถเรามีความเร็วมากเท่าไหร่ เบรกของเราก็ควรจะรับมันได้เช่นกัน ซึ่งในระบบเบรกนั้นมีหลายปัจจัยมากที่ให้การหยุดรถ หนึ่งในนั้นคือ จานเบรก ที่เราจะมาทำความรู้จักกันในวันนี้นั่นเองครับ  

จานเบรก หนึ่งในระบบเบรกที่ทำหน้าที่ชะลอความเร็วและหยุดรถ แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าก็ทำให้ชิ้นส่วนนี้มีหลายรูปแบบมากมาย แล้วแต่ละแบบมันต่างกันยังไง? ข้อดีและข้อเสียมีอะไรบ้าง? แล้วจะเลือกใช้งานยังไงดี? 
จริงๆแล้วจานเบรกนั้นโดยหลักๆจะแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้

1.จานเบรกแบบเรียบ (Smooth Break Rotor)

เป็นจานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน  จะเห็นได้อย่างแพร่หลายในรถบ้าน และใน Supercars บางคัน ซึ่งข้อดีก็คือ เป็นจานที่แข็งแรงและทนต่อการรับแรงกดมากที่สุด แต่ข้อด้อยคือ มีอุณหภูมิที่สูงและมักจะระบายความร้อนได้ไม่ดีเนื่องจากหน้าสัมผัสที่เรียบ ทำให้อากาศเข้ามาระบายได้น้อย และรวมถึงเรื่อง ฝุ่น ที่มักจะเกาะผ้าเบรกและจับตัวเป็นชั้นที่จานเบรก จะสังเกตได้จากการที่ใช้ไปนานๆแล้ว ต้องออกแรงกดเบรกมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาก็คือ น้ำ เหตุผลก็คล้ายๆกับฝุ่นที่เกาะอยู่เป็นชั้นบางๆระหว่างผ้าเบรกและจานเบรกที่เรียบ ทำให้ประสิทธิภาพเวลาเบรกลดลงไปครับ วิธีการแก้ปัญหาคือ จำเป็นที่จะต้องใช้งาน ผ้าเบรคและน้ำมันเบรคที่คุณภาพค่อนข้างสูงเพื่อให้ทนความร้อนและปัญหาอื่นๆ

2.จานเบรกแบบแบบเจาะรู (Drilled Brake Rotors)

จานชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อลดข้อด้อยของแบบเรียบคือเรื่องความร้อน โดยมีการเจาะรูจานเบรกเพื่อให้อากาศไหลเข้ามาระบายความร้อนได้ดีขึ้นและลดโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เบรกจมได้ รวมถึงช่วยไล่ฝุ่นที่เกาะอยู่บนผ้าเบรกได้ดีกว่า

แต่ก็แลกมาด้วยข้อด้อย นั่นคือความแข็งแรงที่ลดน้อยลงเนื่องจากการเจาะรู และปัญหาจานแตกร้าวที่เกิดขึ้นเมื่อจานเบรกนั้นมีอุณหภูมิที่สูง แต่ในรูนั้นอุณหภูมิที่ต่ำกว่าทำให้จานเบรกมีการผิดรูปจนกระทั่งร้าวในที่สุด เรียกว่า Thermal cracking แต่ปัญหานี้ก็แก้ได้ด้วยการใช้วัสดุที่ดีขึ้นนั่นเองครับ

3.จานเบรกแบบเซาะร่อง (Slotted Break Rotor)

มีลักษณะเป็นร่อง ตามแนวหมุนของจานเบรก จานชนิดนี้ได้พัฒนาเพื่อแก้ข้อด้อยของจานแบบเจาะรูที่มีโอกาส Thermal cracking โดยการเซาะร่องบนจานเบรกเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น แล้วยังช่วยในการขจัดฝุ่น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการจับตัวของเบรกที่ดีขึ้นแบบจานเรียบ เนื่องจากร่องที่เซาะช่วยเพิ่มแรงเสียดทานกับผ้าเบรก จึงเหมาะสำหรับรถแข่งรถสมรรถนะสูงๆ ที่จะต้องใช้เบรกอย่างหนักหน่วง แต่ข้อด้อยของจานชนิดนี้ก็คือทำให้ผ้าเบรกหมดเร็วขึ้น

4.จานเบรกแบบเจาะรูและเซาะร่อง (Drill and Slotted Break Rotor)

จานชนิดนี้เป็นการรวมข้อดีของจานทุกๆแบบ คือ ช่วยทั้งระบายความร้อนและช่วยขจัดฝุ่นได้เร็ว ทำให้ประสิทธิภาพการเบรกดีขึ้น และ 
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังรวมข้อเสียไว้ด้วย นั่นคือผ้าเบรกที่หมดไวขึ้น และมีโอกาสแตกร้าวได้ง่ายขึ้นจากการเจาะรู ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว จานเบรกประเภทนี้ จึงไม่ได้รับความนิยมในวงการรถแข่งเท่าไหร่นัก มันจะเหมาะกับรถที่แต่งใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า

สำหรับข้อมูลในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังจะเปลี่ยนจานเบรก จนถึงตอนนี้ ผู้อ่านก็คงจะมีเลือกไว้ในใจกันบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ไม่ใช่แค่เพียงเพราะความสวยงามนะครับ

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Patiphanw

นักเขียน

นักเขียนมือใหม่ ที่พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปทุกวัน เริ่มชอบรถตั้งแต่เด็กเพราะบ้านเปิดอู่ จึงมีเวลาอยู่กับรถมาก ชอบไปขับรถเล่นตอ...

พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Yaris Ativ

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ