Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เดินหน้าตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการไล่เปิดตัวสินค้าใหม่หลายต่อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ในประเทศไทย หรือครอสโอเวอร์น้องใหม่อย่าง Mitsubishi Xforce (มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ) ที่เปิดตัวไปในงานแสดงรถยนต์ที่ประเทศอินโดเมื่อไม่นานมานี้
นอกเหนือไปจากการประกาศเดินหน้าทางด้านตัวสินค้าแล้ว พวกเขายังได้ประกาศเดินหน้าขยายการลงทุน โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศที่จะผลักดันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฮบริดตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป รวมถึงมีการประกาศลงทุนเพิ่มในอินโดนีเซียอีก 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตเป็น 2.5 แสนคัน
และภายในงานแถลงข่าวที่ประเทศอินโดนีเซีย ทาคาโอะ คาโตะ ประธานและประธานจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ออกมาประกาศยืนยันว่าพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอินโดนีเซียในเร็ววันนี้ และที่สำคัญก็คือ จะเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 2 รุ่นในการลุยตลาด
น่าสนใจว่าจะมีการส่งออกมาที่ประเทศไทยหรือไม่ในอนาคต...
แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะทำการผลิตรถรุ่นใดบ้างในประเทศอินโดนีเซีย แต่ดูจากแนวโน้มความเป็นไปได้ และสินค้าที่จัดแสดงอยู่ที่งานที่อินโดนีเซีย ก็มีความเป็นไปได้สูงว่ารถที่ทำการผลิตในอินโดนีเซียในอนาคต น่าจะเป็นรถยนต์นั่งไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง Mitsubishi eK X EV (มิตซูบิชิ อีเค ครอส อีวี) ที่น่าจะฟาดฟันกับตลาดรถไฟฟ้ารุ่นจิ๋วได้สนุกสนาน และรถเชิงพาณิชย์อย่าง Minicab MiEV (มินิแค็บ เอ็มไออีวี) ที่จัดแสดงอยู่เช่นกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องของแร่นิกเกิลที่เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรัลการผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวมที่ทำให้มิตซูบิชิเลือกใช้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิต แต่ตัวสินค้าอย่างอีเค ครอส นั้น มีขนาดของตลาดที่ใหญ่กว่าในประเทศอินโดนีเซียที่มีผู้เล่นจากจีนเข้าไปสร้างฐานเอาไว้ก่อนหน้า และการลงทุนในครั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากอินโดนีเซียมากพอสมควร เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่ตลาดรถไฟฟ้ามาจากแบรนด์จีนเป็นหลัก อินโดนีเซียก็อาจจะเหมาะสม
อีเค ครอส ที่จัดแสดงที่อินโดนีเซียนั้น เป็นการจัดแสดงครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น และหากมีการผลิตเพื่อจำหน่ายจริง ก็จะเป็นการผลิตครั้งแรกและการขายนอกญี่ปุ่นครั้งแรกเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรที่จะนำเข้ามาทำตลาดประเทศไทย แต่คำถามคือ ด้วยข้อกำหนดของเค-คาร์ ทำให้รถคันนี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 64 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตรเท่านั้น และวิ่งได้เพียง 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จ รวมถึงมินิแค็บก็ไม่ได้มีสมรรถนะที่โดดเด่นแตกต่างกันสักเท่าไร
ก็ไม่แปลกใจอะไรที่เขาจะเลือกประเทศที่รับสินค้าได้เป็นฐานผลิต เราก็ทำไฮบริดไปละกัน...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}