ชมคันจริง Toyota Crown รุ่นที่ 16 นำเข้าจากเกรย์ ตัวถังครอสโอเวอร์ พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด

แม้ Toyota Crown (โตโยต้า คราวน์) เจเนอเรชั่นที่ 16 จะไม่ได้จำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ ETON Group เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าอิสระที่นำรถรุ่นนี้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และได้นำมาจัดแสดงในงาน Big Motor Sale 2023 ครั้งนี้ด้วย

ซึ่ง Toyota Crown เจนนี้มีให้เลือกหลายตัวถัง โดยตัวถังที่ทาง ETON นำมาจำหน่ายคือตัวถัง Crossover ซึ่งเป็นตัวถังรูปแบบแรกที่จำหน่ายสำหรับ Crown เจนนี้

ตัวถังใหม่แบบครอสโอเวอร์ฟาสท์แบ็ค

Toyota Crown Crossover ตั้งอยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA-K หรือ GA-K ที่เป็นแพลทฟอร์มเดียวกับกับ Toyota Camry โฉมปัจจุบัน มาพร้อมภาษาการออกแบบยุคใหม่ของ Toyota ซึ่งจะมีรถรุ่นอื่นที่คล้ายกัน เช่น Toyota Prius และ C-HR ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

Toyota ให้นิยาม Crown เจนใหม่นี้ว่าเป็นการมอบความสบายในการขับขี่แบบซีดาน บวกกับมีความสูงของตัวรถคล้ายเอสยูวี ออกมาเป็นรูปแบบครอสโอเวอร์ พร้อมท้ายลาดแบบฟาสท์แบ็ค ให้ทัศนวิสัยที่ดี ขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

Crown เจเนอเรชั่นที่ 16 มีความยาว 4,930 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,540 มม. มีระยะฐานล้อ 2,850 มม. มีระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 145 มม.

ภายนอกของ Crown มาพร้อมหน้าตาที่โฉบเฉี่ยว ช่องดักลมขนาดใหญ่สีดำเงาเพิ่มความสปอร์ต ไฟหน้า LED พร้อมเดย์ไลท์ LED ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมที่ลากยาวต่อเนื่องกัน 

ด้านข้างเราจะเห็นได้ว่าตัวรถมีพื้นที่ใต้ท้องรถที่มากกว่ารถซีดานทั่วไป มีบอดีพาร์ทสีดำตกแต่งรอบคันให้สไตล์แบบครอสโอเวอร์ผสานกับการตกแต่งสีดำเงาและโครเมียมบริเวณมือจับประตูได้อย่างลงตัว ล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 19 นิ้ว

ด้านท้ายของรถมีไฟท้ายแบบ LED ยาวตลอดความกว้างของรถ พร้อมตัวอักษรบอกชื่อรุ่นขนาดใหญ่ตรงกลางท้ายรถ

ภายในคงเอกลักษณ์รถหรูจากญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ได้ดี

ภายในของรถคันนี้ยังคงความหรูหราไว้ตามฉบับของ Crown ในโทนสีเทาดำ ตัดด้วยสีทองแดงเพิ่มความหรูหรา เบาะนั่งบุด้วยผ้าสลับหนัง เมื่อเข้าไปนั่งแล้วสัมผัสของผ้ามีความนุ่มสมกับเป็นรถพรีเมียมของ Toyota 

พวงมาลัยของรถเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสามก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วพร้อมหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้วรองรับ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย ภายในรถยังมี Head up Display

ออพชั่นของรถคันนี้มีมาให้อย่างครบครัน ตั้งแต่พวงมาลัยปรับไฟฟ้า ลำโพง 6 ตำแหน่ง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ตำแหน่ง กระจกมองหลังแบบดิจิทัล, กุญแจ Digital Key และแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger

ตัวรถมาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal และ Sport อีกด้วย

ขุมพลังไฮบริด 2.5 ลิตร

รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้าที่ด้านหน้า และ 54 แรงม้าที่ด้านหลัง ทำให้กำลังสูงสุดรวม 234 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์

ระบบความปลอดภัยครบครัน

ระบบความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน นอกจากระบบความปลอดภัยพื้นฐานแล้ว Toyota Crown ยังมาพร้อมระบบ Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ของโตโยต้ารุ่นล่าสุด ได้แก่

• ระบบช่วยลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน Automatic High Beam
• ระบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า Dynamic Radar Cruise Control 
• ระบบช่วยสังเกตป้ายสัญญาณเตือน Road Sign Assist 
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับ Pre-Collision System with Pedestrian Detection 
• ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert with Steering Assist 
• ระบบช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง Lane Tracing Assist 
• ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง Blind Spot Monitor 
• ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert 

สำหรับ Toyota Crown เจเนอเรชั่นที่ 16 นำเข้าโดย ETON Group จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 3.69 ล้านบาท แม้ Crown รุ่นนี้จะไม่ได้มีหน้าตาเหมือนรุ่นก่อน ๆ แต่ก็เป็นรถพรีเมียมอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เจาะตลาดความต้องการได้หลากหลายยิ่งขึ้น

หากต้องการชม Toyota Crown คันนี้ด้วยตนเอง สามารถมาชมกันได้ที่บูธของ ETON Group ในงาน Big Motor Sale 2023 ตั้งแต่วันนี้ – 3 กันยายน 2566 ณ ไบเทค บางนา

อ่านเพิ่มเติม: เปิดบทบาท Toyota Crown ยุคใหม่ ทำไมต้องขายในอเมริกา แล้วไทยจะได้ใช้หรือไม่?