จีนเพิ่มการส่งออกรถยนต์มากกว่า 54 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 2 ของโลก

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนรายงานว่า จีนส่งออกรถยนต์ไปยังต่างประเทศจำนวน 3.11 ล้านคันในปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าเยอรมนีซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ซึ่งขายได้ 2.61 ล้านคันในตลาดต่างประเทศในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2021

ห่างญี่ปุ่นแค่เอื้อม

ขณะนี้จีนกำลังไล่ตามญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในอันดับ 1 แม้ว่าผลประกอบการทั้งปีของญี่ปุ่นจะยังไม่เปิดเผย แต่ข้อมูลจากญี่ปุ่นแค่ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2022 ก็พบว่าส่งรถไปขายต่างประเทศมากกว่า 3.2 ล้านคัน ชนะจีนไปแล้ว หากนับรวมเดือน 12 เข้าไปด้วย รถญี่ปุ่นก็น่าจะมีตัวเลขส่งออกอยู่ที่ 3.5 ล้านคันโดยประมาณ

เตรียมโค่นญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าญี่ปุ่นจะส่งออกรถยนต์ในปี 2022 น้อยลงกว่าในปี 2021 ซึ่งเคยส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดต่างประเทศได้ 3.82 ล้านคัน นักวิเคราะห์บอกกับ South China Morning Post คาดการณ์ว่า ด้วยการส่งออกที่เติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และปริมาณส่งออกที่ลดลงของญี่ปุ่น ทำให้แดนมังกรจะเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่สุดในอนาคตอันใกล้นี้ 

อ่านเพิ่มเติม : ทำไม ค่ายรถยนต์ประเทศจีนส่วนใหญ่ ถึงเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กันได้ทุกเดือน

BYD มาแรง

Citic Securities คาดการณ์ว่าจีนอาจส่งออกรถยนต์ได้มากถึง 5.5 ล้านคันภายในปี 2030 โดยในจำนวนดังกล่าว จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเป้นจำนวน 2.5 ล้านคัน

จีนยังเป็นผู้นำในการขายรถยนต์ไฟฟ้า นำโดย BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 แซงหน้า Tesla และปัจจุบันบีวายดียังส่งออกไปจำหน่ายในนอร์เวย์ สิงคโปร์ บราซิล และอินเดีย

EV ครองจีน 85%

ผู้ผลิตรถในจีนคุมส่วนแบ่งการตลาดในประเทศของตนเอง เป้นบริษัทผลิต EV ประมาณ 200 ราย โดยในปี 2022 รถเสียบปลั๊กที่ผลิตในประเทศนี้ มีสัดส่วนเกือบ 85% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม : Wuling อาจหาญส่ง Mini EV ลุยตลาดเคคาร์ญี่ปุ่น มั่นใจขายได้ด้วยกลยุทธ์แบบนี้