- ขยายความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
- เดินหน้าผลิตรถนับล้านคันต่อปีในปี 2570
- มุ่งหน้าสู่การลดคาร์บอนเป็นศูนย์ตามแผน
หลังจากประกาศความร่วมมือเบื้องต้นในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมกันระหว่าง Honda (ฮอนด้า) และ GM (จีเอ็ม) ในที่สุด พวกเขาก็ประกาศยกระดับความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมกันอย่างเป็นทางการ ตามการประกาศล่าสุดของทั้ง 2 แบรนด์ร่วมกัน
ในแถลงการณ์ล่าสุด มีความคืบหน้าหลายประการที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศว่าจะร่วมต้นพัฒนา 'รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาจับต้องได้' เพื่อท้าชนตลาดรถยนต์เซกเมนต์หลักของโลก โดยการผลิตนั้นจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2570 เป็นต้นไป จากตลาดสหรัฐอเมริกาที่แรก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
นอกจากนี้ ฮอนด้าและจีเอ็มจะร่วมมือกันในการออกแบบรถยนต์ในการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ปีละหลักล้านคัน รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือระดับสูงในด้านการสร้างสรรค์แบตเตอรี่รุ่นพิเศษ ที่รู้กันว่าคือแบตเตอรี่อัลเธียมที่โด่งดังนั่นเอง
มาดูแผนงานครั้งนี้กันว่าจะน่าสนใจขนาดไหนกัน...
จากการแชร์แพลตฟอร์มสู่การร่วมมือกันพัฒนารถเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ ฮอนด้าและจีเอ็มนั้นประกาศความร่วมมือในตลาดสหรัฐอเมริกา ด้วยการแชร์แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ที่พัฒนาขึ้นมาโดยจีเอ็ม พร้อมทั้งแบตเตอรี่แบบใหม่ที่เรียกว่าแบตเตอรี่อัลเธียม อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความร่วมมือใหม่นี้ พวกเขาจะขยายความร่วมมือไปถึงการพัฒนารูปแบบและรถยนต์ทั้งคันร่วมกัน เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการผลิตรถรุ่นนี้ร่วมกันปีละมากกว่า 1 ล้านคัน โดยเฉพาะในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่มีขนาดของตลาดทั่วโลกปีละกว่า 13 ล้านคัน
จับมือกันลดราคาแบตเตอรี่ยุคใหม่แห่งโลกอนาคต
อีกหนึ่งในเป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ ก็คือการหาโอกาสร่วมกันในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ระดับสูง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการลดต้นทุนในการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการเพิ่มศักยภาพของแบตเตอรี่ยุคใหม่ ในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคต
ใช้ความชำนาญที่แตกต่างกันมาทำงานร่วมกัน
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ จีเอ็มจะเดินหน้าการทำงานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ลิเธียม-เมทัล, ซิลิคอนและแบตเตอรี่แบบโซลิด-สเตท พร้อม ๆ กับการพัฒนาขั้นตอนของการผลิตที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของสายการผลิตแบตเตอรี่ได้ในอนาคต ขณะที่ฮอนด้าเองนั้น จะเดินหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิด-สเตท ที่ฮอนด้ามองว่าเป็นหลักในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งฮอนด้าได้เริ่มทดลองสายการผลิต เพื่อเดินทางไปสู่การผลิตแบบแมสในอนาคต
ย้อนอดีตความร่วมมืออันเข้มแข็งของพันธมิตรข้ามโลก
ความร่วมมือของจีเอ็มและฮอนด้านั้นมีมาอย่างยาวนานในหลายมิติ โดนหลัก ๆ แล้วจะเป็นโครงการพัฒนาด้านไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ นับตั้งแต่ปี 2556 ที่วกเขาเริ่มทำงานร่วมกันในการพัฒนาระบบฟิวเซลล์และระบบกักเก็บเชื้อเพลิงไฮโดรเจนรุ่นใหม่ จากนั้นในปี 2561 ฮอนด้าได้เข้าร่วมในการพัฒนาโมดุลแบตเตอรี่ร่วมกับทางจีเอ็ม จากนั้นในอีก 2 ปีถัดมา จีเอ็มและฮอนด้าได้ประกาศความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ซึ่งก็รวมถึง Honda Prologue (ฮอนด้า โปรล็อก) ที่จะเปิดตัวในปี 2567 ตามมาด้วยเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ Acura (อาคูร่า) รวมถึงมีแผนงานร่วมกันในแผนก Cruise (ครูส) ที่พัฒนารถยนต์อัตโนมัติอีกด้วย
จีเอ็มเดินหน้าสู่การไม่ปล่อยคาร์บอนในปี 2583
แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม ระบุว่าบริษัทจะมุ่งหน้าสู่แผนงานหลักในการไม่ปล่อยคาร์บอนจากฟลีตรถยนต์ที่จำหน่ายในปี 2583 โดยจะเริ่มจากการยกเลิกการปล่อยไอเสียจากรถเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กในปี 2578 ซึ่งความร่วมมือกันฮอนด้าในครั้งนี้ จะทำให้สามารถนำพาผู้คนทั่วโลกเข้ามาสัมผัสกับรถไฟฟ้าได้รวดเร็วกว่าที่ค่ายเดียวจะทำได้ ซึ่งจีเอ็มและฮอนด้าจะร่วมแบ่งปันเทคโนโลยีที่ดีที่สุด การออกแบบและกลยุทธ์ในการผลิต เพื่อส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถจับต้องได้ในระดับสากลโลก โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้และประเทศจีน
ฮอนด้าจะตามมาจากนั้นอีก 10 ปีถัดไป
โทชิฮิโร้ มิเบะ ประธานและซีอีโอ ฮอนด้า มอเตอร์ ระบุว่าฮอนด้านั้นมีเป้าหมายในการงดปล่อยคาร์บอนเช่นกันในปี 2593 ทั่วโลก ซึ่งการที่จะทำอย่างนั้นได้ จะต้องอาศัยการลดราคาจำหน่ายของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ความสามารถในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำได้โดยประชากรกลุ่มใหญ่ของโลก ซึ่งฮอนด้าและจีเอ็มจะช่วยกันสร้างการแพร่กระจายของยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ด้วยการร่วมมือกันของเทคโนโลยีของทั้ง 2 ฝ่าย
งานนี้มารอดูแผนงานกันในอีก 5 ปีข้างหน้าได้เลย!!!
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });