ช่วงนี้ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงบางจังหวัดเริ่มมีฝนตกกันบ้างแล้ว ทำให้ชาวไทยได้คลายร้อนกันไปบ้าง แต่ก็มีปัญหาตามมาก็คือ ฝ้าขึ้นกระจกรถยนต์
ฝ้ากระจกนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายและบ่อย ไม่ว่าจะเป็นกระจกด้านหน้า-หลัง หรือแม้แต่กระจกมองข้าง ก็สามารถเกิดฝ้ามาบดบังทัศนวิสัยของการมองเห็นเส้นทางจนเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ฝ้ามีสาเหตุมาจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง เรารวบรวมมาให้แล้ว
ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ฝ้ากระจกรถยนต์ เกิดจากการที่อุณหภูมิความชื้นภายในและภายนอกตัวรถมีความแตกต่างกันมากเกินไป พบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาวและฤดูฝน การเกิดฝ้าที่กระจกรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ
- ฝ้าที่เกิดบริเวณกระจกด้านนอกตัวรถ - เพราะอุณหภูมิในรถเย็นกว่าอากาศภายนอก
- ฝ้าที่เกิดบริเวณกระจกด้านในตัวรถ - เพราะอุณหภูมิในรถอุ่นกว่าอากาศภายนอก
อ่านเพิ่มเติม จริงหรือ? เปิดแอร์รถยนต์ยิ่งแรงยิ่งกินน้ำมัน
วิธีการแก้ไข
การแก้ไขฝ้ากระจกนั้นมีหลายวิธี ตามตำแหน่งของฝ้าที่เกิดขึ้น โดยส่วนมากแล้วจะสามารถใช้ปุ่มไล่ฝ้าที่ติดตั้งมากับรถยนต์ได้
มันถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรชาวเยอรมนีที่ชื่อว่า Heinz Kunert ที่ต่อมาได้พัฒนาเป็นขดลวดเส้นเล็ก ๆ ติดอยู่กับกระจก และเริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่ในยุค 70 แต่ถ้าหากไม่หายก็สามารถแก้ด้วยวิธีเหล่านี้
ฝ้าที่กระจกรถภายนอก
หากเกิดฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เราสามารถที่จะใช้ที่ปัดน้ำฝนสัก 3-4 ครั้ง ฝ้าที่เกิดขึ้นก็จะจางลง แต่ถ้าหากยังไม่ดีขึ้นสามารถใช้น้ำฉีดกระจกร่วมด้วย
ฝ้าที่กระจกรถด้านข้าง
ให้เปิดกระจกรถยนต์ลงจนสุดแล้วปิดขึ้นมาตามเดิม ฝ้าที่เกิดขึ้นก็จะหายไป เพราะตัวกระจกจะถูกเสียดสีกับขอบยางที่ประตูขณะเลื่อนขึ้น-ลง ซึ่งขอบยางนี้เองที่เปรียบเสมือนยางปัดน้ำฝนที่ช่วยขจัดฝ้าให้ออกไปได้
ฝ้าที่กระจกด้านหลัง
ฝ้าที่เกิดขึ้นที่กระจกหลังอาจจะเป็นเรื่องที่แก้ไขยากเล็กน้อย เพราะรถบางคันก็จะไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้ สามารถแก้ได้โดยใช้ปุ่มไล่ฝ้า หรือก็ต้องยอมลงไปเช็ด
ฝ้าที่กระจกรถภายใน
ฝ้าชนิดนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ในหน้าหนาวเป็นหลัก แต่ในหน้าฝนก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นสามารถทำได้โดยใช้ผ้าสะอาดเช็ดจากภายในตัวรถ หรือปรับทิศทางของแอร์ให้ไม่พัดเข้าหากระจก
ถ้าหากยังไม่ดีขึ้นให้ปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้ลดต่ำลงจนมีความใกล้เคียงกับอุณหภูมิภายนอก หรืออาจเปิดกระจกเพียงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศจากภายนอกเข้ามา จะช่วยให้อุณหภูมิทั้งภายนอกและภายในมีความใกล้เคียงกัน
อย่าลืมปิดไล่ฝ้า
ที่สำคัญคือ เมื่อทำการเปิดปุ่มไล่ฝ้าแล้ว ต้องห้ามลืมปิดฟังก์ชั่นนี้เด็ดขาด เพราะระบบไล่ฝ้ากระจกหลังจะทำการละลายฝ้าด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้าไปตามเส้นขดลวดรอบ ๆ กระจกบานหลัง ก่อให้เกิดความร้อนที่กระจก ทำให้หยดน้ำที่เกิดขึ้นบนกระจกระเหยไป
ด้วยเหตุนี้เองอาจจะทำให้กระจกรถด้านในเกิดความร้อนสะสมจนขดลวดขาด หรือฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพได้ ไปจนถึงกระจกแตกได้อีกด้วยจากความร้อนที่ปะทะกับความเย็น แนะนำว่าไม่ควรเปิดต่อเนื่องนานเกิน 30 นาที
แต่ในรถรุ่นใหม่ ๆ หลายคันจะมีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ ในกรณีที่กระจกแห้งหรือขดลวดร้อนเกินไป จึงไม่ต้องกังวลมากไป
อ่านเพิ่มเติม ม่านบังแดดมีประโยชน์อย่างไร?
ไม่ไหวก็จอด
อาการฝ้าขึ้นกระจก หากลองแก้วิธีเหล่านี้แล้วยังไม่หาย ท้ายที่สุดแล้วจอดรอในที่ปลอดภัยให้ฝ้าหายไปก่อนหรือลงไปเช็ดด้วยผ้า จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากอาจบดบังวิสัยทัศน์ ทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่ได้