Jeep (จิ๊ป) กำลังพยายามที่จะใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติกับการขับขี่แบบออฟโรด โดยเริ่มจากการทดสอบระบบดังกล่าวใน Grand Cherokee รุ่นล่าสุด เพื่อช่วยให้เอสยูวีขนาดใหญ่สามารถข้ามผ่านเส้นทางออฟโรดที่ท้าทายได้แบบไร้คนขับ
“เรากำลังจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณเจอจากการขับขี่อัตโนมัติบนถนน” Neda Cvijetic หัวหน้าฝ่ายปัญญาประดิษฐ์และการขับรถอัตโนมัติของบริษัทแม่อย่าง Stellantis อธิบายขณะที่อยู่บนรถต้นแบบคันหนึ่งที่ชานเมือง Moab รัฐยูทาห์
Jeep ไม่ได้กล่าวถึงระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบออฟโรดของตัวเองเท่าไหร่ ไม่มีแม้แต่ชื่อของระบบ แต่บริษัทระบุว่ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับรถที่ควรจะมีระบบนี้ และระบบนี้จะไม่มีในกระบะแบรนด์ Ram
ภายนอกภายในไม่ต่างจากรถทั่วไปนัก
สำหรับรถต้นแบบที่ใช้ทดสอบระบบนี้นั้นไม่ได้แตกต่างจาก Jeep Grand Cherokee ทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการทดสอบระบบที่ติดตั้งบนหลังคารถเท่านั้น
สำหรับภายในของรถคนนี้เหมือนกับ Grand Cherokee ทั่วไปแต่มาพร้อมหน้าจอกลางขนาดใหญ่ที่ติดตั้งทับหน้าจอเดิม
ในวิดีโอของ Jeep แสดงให้เห็นว่าจอกลางของรถสามารถแสดงผลกล่องสีเขียว “lead” ซึ่งยืนยันว่าระบบสามารถตรวจจับรถคันข้างหน้าพร้อมกับแยกสิ่งกีดขวางจากสภาพถนนออฟโรดได้ และอาจขับตามรถคันอื่นได้เช่นกัน
แม้จะเหมือนกับสิ่งที่สร้างขึ้นมาเป็นคอนเท้นเท่านั้น แต่วิดีโอของ Jeep นั้นแสดงให้เห็นว่า Cvijetic ได้ใช้งานหน้าจอดังกล่าวจริงในตัวเลือกการขับขี่ต่าง ๆ
และยังมีไลฟ์สตรีมวิดีโอที่แสดงให้เห็น “ความเร็วที่กำหนด” “ความเร็วรถ” “มุมเอียงที่ต้องการ” และ “มุมเอียงของรถ” และไม่ต้องกลัวหากมีอะไรผิดพลาด เราสามารถกดปุ่มสีน้ำเงินขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “EMERGENCY stop” ได้ทันที
สามารถใช้ได้ทุกสภาพถนน
Jeep ได้มองเห็นการใช้งานเทคโนโลยีนี้ในหลายกรณี และดูเหมือนว่าวิศวกรต้องการสร้างระบบที่จะมีประโยชน์ต่อถนนทั่วไปด้วย
“คุณสมบัติและเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีการใช้งานจริงทั้งบนถนนและออฟโรดในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย” Christian Meunier ประธานของ Jeep กล่าว
โดย Jeep ยืนยันว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอีกไม่นาน หาก Jeep กำลังทดสอบเทคโนโลยีนี้อยู่ การผลิตจริงคงจะอีกไม่นานเช่นกัน
ค่ายอื่นก็พัฒนาเทคโนโลยีแบบเดียวกัน
Jeep ไม่ได้คิดค้นเทคโนโลยีการขับขี่ลักษณะนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่ Land Rover ก็กำลังทดสอบเทคโนโลยีการออฟโรดแบบไร้คนขับมาเกือบสิบปีแล้ว แม้ว่าระบบดังกล่าวจะยังไม่ได้ผลิตจริง
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติบนทางออฟโรดอาจยากกว่าที่คิด
การใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในเส้นทางออฟโรดอาจมองได้ว่าสามารถพัฒนาได้ง่ายกว่าทางปกติ แต่ในทางกลับกัน วิศวกรจำเป็นต้องวางระบบของพารามิเตอร์ที่กำหนดสถานที่ใหม่ทั้งหมด
ผู้ขับขี่ที่เป็นมนุษย์อาจต้องใช้เวลามากกว่าเพื่อบอกกำหนดว่าทางแบบใดควรจะข้ามผ่านไปอย่างไร และต้องสอนระบบให้รู้ถึงสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายกว่าถนนในเมืองอย่างชัดเจน
อ่านเพิ่มเติม : Jeep Cherokee จะเลิกทำตลาดพวงมาลัยขวา ปิดตายความหวังที่จะมาขายเมืองไทย