นักแข่งคนดังแห่งประวัติศาสตร์การแข่งรถของออสเตรเลีย Peter Brock ซึ่งครองแชมป์รถแข่งทางเรียบนี้มาเป็นเวลา 3 ทศวรรษ พร้อมเกรียติประวัติในการแข่งทางเรียบมากมาย แต่บทชีวิตจบลงที่สนามแรลลี่ในภายหลัง
Peter Brock เกิดและโตที่ประเทศออสเตรเลีย รถคันแรกของ Brock คือรถ Austin 7 ที่เขาซื้อมาในราคา 5 ปอนด์ ทักษะการขับรถของเขาพัฒนาขึ้นมากในช่วงวัยรุ่น เพราะต้องขับไปซ่อมไป ทำให้รู้จักกับกลไกรถ และลักษณะพื้นฐานที่ดีของรถ
เริ่มเข้าวงการก็ชนะเลย
เขาเข้าวงการสนามแข่งด้วยรถสปอร์ตซีดานที่ผลิตขึ้นเองซึ่งสร้างขึ้นในปี 1967 ทำจากรถ Austin A30 แบบเก๋ง 2 ประตูพร้อมแปลงใส่เครื่องยนต์ Holden ขนาดใหญ่ ทำให้เขากวาดชัยชนะมากกว่า 100 รายการรวมถึง Australian Sports Sedan Championship
รถ Austin A30 สีน้ำเงินวางเครื่อง 6 สูบ Holden อันโด่งดังนี้ หนึ่งในสามารถไต่ความสำเร็จถึงขั้นการเป็นแชมป์ Australian Rallycross ในปี 1970 ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสาธารณชนในการแข่งรถทัวริ่งคาร์ ถึงขนาดทำให้ Harry Firth ผู้จัดการทีม Holden Dealer ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ได้ให้ข้อเสนอกับ Brock เพื่อไปขับรถที่สนาม Bathurst ด้วยรถ Holden Monaro GTS 350 เมื่อลงสนามครั้งแรกก็ได้รับอันดับที่ 3 ในทันที
หลังจากนั้นในปี 1972 Brock การขับรถ Holden Torana XU1 ก็คว้าแชมป์ Bathurst ได้เป็นครั้งแรก แล้วเขาก็ยังคว้าแชมป์ต่อเนื่อง รวมถึงทำลายสถิติเวลาต่อรอบในสนามดังกล่าว ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่มีใครทัดเทียมได้ในปี 1979
การเข้าสู่วงการทางเรียบ
นอกจากสถิติของเขาที่การแข่งขัน Bathurst แล้วนาย Brock ยังได้รับชัยชนะในการแข่งขัน Sandown 500 มากถึง 9 ครั้งและชนะ 7 ครั้งติดต่อกัน (1973, 1975-1981, 1984) ซึ่งเป็นรายการแข่งรถทางเรียบแบบ endurance ที่ต้องใช้ความอึดของรถและความอดทนของคนขับด้วย ในทางกลับกัน Brock ได้เคยเข้าร่วมการแข่งรถล้อเปิดในรายการ Australian Formula 2 แต่เข้าเส้นชัยได้ที่ 8 ทำให้เขากลับมาขับรถที่แนวที่ตนเองถนัด นั่นคือรถบ้านทางเรียบนั่นเอง
V8 Supercar คือที่สุด
การแข่งขันที่ Brock ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ Australian Touring Car/V8 Supercar การแข่งรถทางเรียบในรถซีดานจูนเครื่องยนต์แรง เขาเข้าร่วมในฐานะนักขับนำของทีม Holden ด้วยรถรุ่น Toranas ทั้ง 6 และ 8 สูบ และต่อมาก็ได้ขับรถ Commodores V8 รุ่นใหม่ล่าสุดในปี 1980 เขาก็ได้อันดับ 1 ทันที และก็ยืนโพเดียมได้ในรายการนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับการกล่าวขานด้วยความเคารพในหมู่นักแข่งออสเตรเลีย แม้จะย้ายไปขับรถแข่งให้ยี่ห้ออื่นบ้าง แต่ก็ยังตำแหน่งหัวแถวในรายการนี้อยู่ดี
Peter Brock ไม่ได้แสวงหาอาชีพนักแข่งรถนอกประเทศออสเตรเลีย มีเพียงโอกาสสั้น ๆ ที่ได้ลอง 24 Hours of Le Mans ในปี 1976 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว BMW 3.0CSL ซึ่งล้มเหลว และแข่งในปี 1984 ด้วยรถ Porsche 956 โดยมีนักขับร่วม Larry Perkins ซึ่งวิ่งได้สูงถึงอันดับที่ 5 ทำให้เขารู้ตัวเองว่า กลับมาทำงานแข่งแนวที่ตนเองถนัดนั่นคือรายการ V8 Supercar
ผลงานหลังการเกษียณ
ในปี 1997 Brock เกษียณตัวเองจากการแข่งรถ V8 Supercar แบบเต็มเวลาหลังจากอาชีพการงานที่โดดเด่น หลังจาก 'เกษียณอายุ' เพียงเล็กน้อย เขากลับมาที่การแข่ง Bathurst สองครั้ง (2002 และ 2004) และลงแข่งขันในประเภท V8 Supercar อยู่ดี
เมื่อไม่ได้แข่งแล้ว เขามักจะปรากฏตัวบนจอโทรทัศน์ในฐานะพรีเซนเตอร์ เป็นพิธีกรรายการยานยนต์ รวมถึงได้ออกสารคดี 2 เรื่อง ได้แก่ The Legend และ 35 Years on the Mountain อีกด้วย
เสียชีวิตในสนามแรลลี่
วันที่ 8 กันยายน 2006 ขณะที่ Brock ขับรถอยู่ในแรลลี่ Targa West '06 ด้วยรถ Shelby Daytona ที่วางเครื่อง Honden Monaro V8 อันคุ้นเคยสำหรับเขา แต่สภาพถนนเป็นถนนสาธารณะที่แคบและคดเคี้ยว ไม่มีพื้นที่ run-off อย่างสนามแข่ง ทำให้ขณะที่ลงเนินทางโค้งซ้ายบนถนน Clenton เป็นระยะทางกว่า 50 เมตร รถของเขาไถลออกข้างไปชนต้นไม้ ทำให้ Brock วัย 61 ปีเสียชีวิตทันที สาเหตุมาจากการเข้าโค้งด้วยความเร็วมากเกินไป
Peter Brock ได้รับพิธีงานศพโดยรัฐเป็นเจ้าภาพ พร้อมกับมีอนุสรณ์ถาวรที่สนามแข่งรถ ชื่อว่า Sandown Raceway ปัจจุบันถ้วยรางวัลของผู้ชนะรุ่น Bathurst 1000 เปลี่ยนชื่อเป็น Peter Brock Trophy เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของเขาในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของออสเตรเลีย
อ่านเพิ่มเติม : Halo ที่นักแข่งฟอร์มูล่าวันเคยต่อต้านกลายเป็นชิ้นส่วนช่วยชีวิตได้อย่างไร?